PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

“ยิ่งลักษณ์” อัดรัฐประหารเปรียบเสมือนเอาปืนจี้รถ ประกาศพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ส่วนตอนนี้ใช้เวลาว่าง “เพาะเห็ด”

“ยิ่งลักษณ์” อัดรัฐประหารเปรียบเสมือนเอาปืนจี้รถ ประกาศพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ส่วนตอนนี้ใช้เวลาว่าง “เพาะเห็ด”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
24 พฤศจิกายน 2557 14:33 น.

“ยิ่งลักษณ์” อัดรัฐประหารเปรียบเสมือนเอาปืนจี้รถ ประกาศพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ส่วนตอนนี้ใช้เวลาว่าง “เพาะเห็ด”
บทสัมภาาณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเว็บไซต์บางกอกโพสต์ สัมภาษณ์โดยวาสนา นาน่วม
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
“ยิ่งลักษณ์” อัดรัฐประหารเปรียบเสมือนเอาปืนจี้รถ ประกาศพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ส่วนตอนนี้ใช้เวลาว่าง “เพาะเห็ด”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย นักโทษหนีคุกขณะไปเจอกันที่ประเทศจีน (แฟ้มภาพ)

“ยิ่งลักษณ์” อัดรัฐประหารเปรียบเสมือนเอาปืนจี้รถ ประกาศพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ส่วนตอนนี้ใช้เวลาว่าง “เพาะเห็ด”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. (แฟ้มภาพ)

“ยิ่งลักษณ์” เผยสื่อเปรียบ รัฐประหาร 22 พ.ค. คสช. เอาปืนจี้หัวคนขับรถก่อนขโมยรถไป ลั่นรู้ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ แล้วว่าถ้าไม่โดนองค์กรอิสระ - ศาล ก็คงทหารปฏิวัติ ระบุไม่หวั่นกรณีจำนำข้าวขาดทุน 6 แสน ล. ไม่หนีและให้สัญญากับ “ประยุทธ์” แล้ว ยันถ้าไม่ติดอะไรพร้อมลงเลือกตั้งปี 59 ปัจจุบันงานอดิเรกคืออ่านหนังสือ และเพาะเห็ด
      
       เช้าวันนี้ (24 พ.ย.) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่บทสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยถือเป็นบทสัมภาษณ์ชิ้นแรกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ผ่านมาเป็นเวลาหกเดือน
      
       ในบทสัมภาษณ์ที่ใช้ชื่อว่า Yingluck saw the coup coming น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า เธอรู้ตัวตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วว่า จะต้องมีจุดจบด้วยการถูกทำรัฐประหารโดยคณะทหารเหมือนกับที่เคยเกิดกับพี่ชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2549
      
       “ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วว่า หากไม่มีการดำเนินการอะไรบางอย่างจากองค์กรอิสระหรือศาล ก็ต้องเป็นการรัฐประหาร” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ พร้อมกับเปรียบเปรยด้วยว่า สถานการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นั้นเหมือนกับการที่ประชาชนยื่นกุญแจรถให้เธอขับและบอกให้เธอขับรถนำพาประเทศไทย ทว่า อยู่ดีๆ ก็มีคนเอาปืนมาจี้ที่หัวและบอกให้เธอลงจากรถไป
      
       ส่วนปัญหาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องความผิดในกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีโครงการจำนำข้าว ซึ่งมีผลสรุปว่ามีผลขาดทุนกว่า 6 แสนล้านบาท นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่าต้องการจะสู้คดี โดยไม่หลบหนีไปไหน แม้ว่าในช่วงหลังเธอจะเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง เช่น ไปยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ซึ่งทุกครั้งเธอยืนยันว่าได้ขออนุญาต กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างถูกต้อง
      
       “ก่อนหน้านี้ ดิฉันบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.) ว่า เขาสามารถวางใจได้ว่า ฉันจะไม่หนีไปไหน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว และยังเปิดเผยด้วยว่า หากไม่ติดข้อกฎหมายหรือปัญหาอะไรเธอก็พร้อมจะลงเลือกตั้งทั่วไปในปี 2559
      
       ในส่วนของชีวิตประจำวันหลังการรัฐประหาร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ระบุว่า เธอพยายามทำตัวให้เงียบเอาไว้ ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการอ่านหนังสือ เจอกับเพื่อนฝูง ออกไปทานข้าวนอกบ้าน และชอปปิ้ง นอกจากนี้ก็มีการดูแลบ้าน และดูแลบุตรชาย “น้องไปป์” ศุภเสกข์ อมรฉัตร โดยขณะนี้งานอดิเรกชิ้นหนึ่งของเธอก็คือการ “เพาะเห็ด” ไว้ที่สวนในบ้าน โดยการได้เห็นเห็ดเจริญเติบโตถือว่าช่วยผ่อนคลายได้อย่างมาก
      
       ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า เธออาจจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับช่วงชีวิตระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะเขียนจากความทรงจำว่าใครทำอะไรและพูดอะไรไว้บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น: