PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

“วัชระ” สับข่าวสด-มติชนเขียนข่าวล่วงหน้า จี้สอบคำพิพากษารั่ว ยันฎีกาหมิ่น “ตู๊ดตู่

“วัชระ” สับข่าวสด-มติชนเขียนข่าวล่วงหน้า จี้สอบคำพิพากษารั่ว ยันฎีกาหมิ่น “ตู๊ดตู่”
Cr:ผู้จัดการ
อดีต ส.ส.ปชป.โวย “ข่าวสด-มติชน” เขียนข่าวล่วงหน้าศาลอุทธรณ์ยืนคุก 2 เดือนคดีหมิ่น “จตุพร” แถมมโนต่อว่าอุทธรณ์ทั้งที่ไม่ได้จ้อสื่อใด ฉะสะท้อนถึงจริยธรรม-ความน่าสงสัยกระบวนการยุติธรรม เล็งชงสอบสื่อ จี้โฆษกศาลเคลียร์ วันจันทร์ร้องผู้พิพากษาเรียก บก.หนังสือพิมพ์สอบละเมิดอำนาจศาล และให้ตั้ง กก.สอบคำตัดสินรั่ว ยันฎีกาต่อ เชื่อคำว่า “ท่อน้ำเลี้ยง” ไม่หมิ่น
วันนี้ (21 พ.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุกตนเอง 2 เดือนรอลงอาญา 2 ปี ในคดีหมิ่นประมาทระหว่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.กับตนเอง โดยได้นำหนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับลงวันที่ 21 พ.ย.มาแสดงพร้อมกับระบุว่า ในหนังสือฉบับเช้าของทั้งสองฉบับวันนี้ โดยหน้า 6 หนังสือพิมพ์มติชน และหน้า 10 ของหนังสือพิมพ์ข่าวสด มีการนำเสนอข่าวว่าศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุกตนเอง 2 เดือน พร้อมกับข้อความระบุว่าตนเองให้สัมภาษณ์เตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาต่อไป ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วศาลได้นัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันนี้ซึ่งตนได้เดินทางไปศาลและผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ตัดซองคำพิพากษาในเวลา 10.00 น. และอ่านเสร็จสิ้นในเวลา 10.15 น. จากนั้นตนได้เดินทางกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเปิดหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับดูกลับพบว่ามีการรายงานข่าวดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว และมีเนื้อหาสาระเหมือนกับที่ศาลได้อ่านให้ตนฟังในวันนี้
นายวัชระกล่าวว่า ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดสื่อทั้งสองฉบับจึงล่วงรู้คำพิพากษา ก่อนที่จะมีการอ่านให้กับตนซึ่งเป็นจำเลยในคดีได้รับทราบ อีกทั้งยังมีการระบุว่าตนให้สัมภาษณ์ว่าจะอุทธรณ์ทั้งที่เมื่อวาน (20 พ.ย.) ตนอยู่บ้านล้างจานและไม่ได้พบปะพูดคุยกับสื่อมวลชนสำนักไหนเลย กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงจริยธรรมของสื่อและความน่าสงสัยในกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ทราบว่าผู้สื่อข่าว บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับรู้คำพาพิพากษาล่วงหน้าได้อย่างไร โดยจะทำหนังสือถึงสมาคมสื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับ และขอเรียกร้องให้โฆษกศาลยุติธรรมออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้ตนในฐานะผู้เสียหายให้ทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 24 พ.ย. ตนจะนำหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับไปยื่นร้องต่อองค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้เพื่อให้เรียกบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับมาสักถามว่าเหตุใดจึงมีการตีพิมพ์คำพิพากษาไปก่อนล่วงหน้า ไม่รู้ว่าจะเข้าข่ายล่วงละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ พร้อมกับจะขอให้ศาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าเหตุใดคำพิพากษาจึงหลุดรั่วออกมาก่อนทีจะอ่านให้คู่ความฟัง
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีก็จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาต่อไป เพราะยังติดใจคำว่า “ท่อน้ำเลี้ยง” ไม่ได้เข้าข่ายหมิ่นประมาทแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น: