PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ผบ.ทบ.รับเรียก"วีระชัย"และแกนนำหลายคนคุยงดพูดและเคลื่อนไหวแล้ว

เรียกมาคุย.....ไม่แก้แค้น สกัดกั้นใคร
บิ๊กโด่ง ผบทบ. เผย ผบ.หน่วยทหาร ในแต่ละพื้นที่ เชิญ แกนนำกลุ่มต่างๆมาพบ ทำความเข้าใจ ยอมรับ ทหารคุย"วรชัย เหมะ"และอีกหลายคน ขอความร่วมมือ งดพูด เคลื่อนไหว แต่ขอให้เสนอความเห็น ผ่านช่องทาง ที่เตรียมไว้ ถ้าตั้งกลุ่ม ตั้งสภาของตนเอง ไปออกข่าว ไปแสดงความเห็นไป ก็จะไม่เกิดเอื้อต่อการสร้างความ รักสามัคคี แต่มองว่า คลื่นใต้น้ำ หรือ กลุ่มเคลื่อนไหวไม่ใช่ใหญ่โต อะไรมาก ท่านนายกฯ แค่ต้องการป้องปราม เท่านั้น ยังสามารถพูดคุยขอความร่วมมือกันได้ เชื่อว่า ประเทศเรา จะต้องไปได้ ถ้าแตกสามัคคี ยุยงปลุกปั่น ประเทศก็ไปไม่ได้ ยัน คสช.ไม่คิดแก้แค้น สกัดกั้นใคร

"จริงๆไม่มีอะไรมาก เป็นปกติจะมีคนเห็นต่าง จริงๆ ไม่มีข้อมูลว่าจะมีอะไรมาก และไม่ได้ห่วงกังวลอะไร นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่าให้พยายามพูดคุยทำความเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างความเข้าใจ จึงได้เน้ยย้ำในการเสริมสร้างความเข้าใจ การสร้างความรักสามัคคี ยังเชื่อประเทศไทยยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ส่วนคลื่นใต้น้ำที่ได้รับรายงานมีการเคลื่อนไหวลักษณะอย่างไร พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า ทราบว่ามีการพูดคุยเสวนาแสดงความเห็น การแสดงออกในการเสวนา ซึ่งมีกฏระเบียบอยู่แล้วว่าต้องอนุญาตก่อน และต้องไม่มีเนื้อหาที่ทำให้เกิดการแตกตวามสามัคคีหรือการยุยงปลุกปั่น ซึ่งที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี
"อยากให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปซึ่งรัฐบาลดำเนินการอยู่ แม้ไม่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่สามารถเข้ามาส่งคิดเห็นให้สปชได้ หากไปตั้งกลุ่มไปตั้งสภาเอาเองเกรงว่าจะทำให้เกิดสภาพไม่เอื้อต่อความรักษความสามัคคี และความเรียบร้อย
ดังนั้น รัฐบาลเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ขอให้เข้าใจว่าคสช.มีอำนาจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำ
"ผมสั่งการว่าให้ใช้วิธีการทำความเข้าใจ ที่ผ่านมาหลายอย่างอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจ แต่ขอให้กลับมาเข้าสู่ระบบตามที่วางไว้ซึ่งต่อไปจะมีการดำเนินการตามกระบวนการปฏิรูปต่อไป ซึ่งมีแนวทางแล้วว่าคนที่ไม่มีโอกาสเป็นสปช.จะมีส่วนร่วมอย่งไร" พลเอก อุดมเดช กล่าว

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่การสกัดกั้นฝ่ายรัฐบาลเดิมหรือพรรคเพื่อไทย พลเอก อุดมเดช กล่าว่า ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ด้วยการผสมผสานแนวคิด ที่เป็นที่ยอมรับ และความพึงพอใจ จะไปจำกัดใครหรือกลั่นแกล้งใคร นายกรัฐมนตรีจะไม่ทำ ยุทธศาสตร์จึงต้องสร้างการยอมรับและความพอใจ ถ้าสิ่งที่รัฐบาลทำแล้วไม่เกิดการยอมรับจะทำไปทำไม ขอให้เข้าใจและไม่เดินไปคนละทิศคนละทาง

ไม่มีความคิดเห็น: