PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

ตั้ง 14กก.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช.บิ๊กป้อมเป็น ปธ.

13/1/58
หัวหน้า คสช. ออกคำสั่ง คสช.ที่ 2/58 ตั้งคณะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช.14 คน ให้ "พล.อ.ประวิตร" เป็นประธาน พร้อมกำหนดกรอบ 7 ข้อ

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2558 ลงวันที่ 9 ม.ค. เรื่อง แต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินการของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการบูรณาการสอดคล้องรองรับกับยุทธศาสตร์ของ คสช.ทั้ง 9 ด้าน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่เหมาะสม และยั่งยืน โดยนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการปฏิบัติ

ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. เป็นประธาน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองประธาน มีกรรมการ ประกอบด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิช ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ นายอำพน กิตติอำพล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ผู้ทรงคุณวุฒิ (โดย หัวหน้า คสช. แต่งตั้งขึ้นมาอีกไม่เกิน 3 คน) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ กรรมการและเลขานุการ

โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของ คสช. 2. รายงานผลดำเนินการตามข้อ1 รวมทั้งความเห็นหรือข้อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขต่อหัวหน้า คสช. เพื่อพิจารณาสั่งการให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป 3. กำหนดแนวทางและมาตรการหรือกลไกในการประสานความร่วมมือระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของ คสช. ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

และ 4. ในกรณีที่เห็นสมควรอาจแจ้งต่อหัวหน้า คสช.เพื่อขอให้มีการประชุมร่วมกันของ คสช.และ ครม.เพื่อปรึกษาหารือหรือพิจารณาแนวทางดำเนินการเพื่อให้การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของ คสช. มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 5. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือช่วยเหลือในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตามความจำเป็น 6. เชิญข้าราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อเท็จจริงความเห็น หรือ ข้อเสนอแนะ หรือเอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็น 7. ดำเนินการอื่นใดตามที่ หัวหน้า คสช.มอบหมาย

นอกจากนี้ ให้สำนักเลขาธิการ คสช.อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานและรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการและคณะทำงานตามคำสั่งนี้ และให้พิจารณาการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการและการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการอื่นๆที่จำเป็น เพื่อให้เบิกจ่ายได้ตามระเบียบของทางราชการ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของ สำนักเลขาธิการ คสช.

ไม่มีความคิดเห็น: