PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

"ไพบูลย์ คุ้มฉายา" ประชุมหาข้อสรุป ส่งรายชื่อข้าราชการเอี่ยวทุจริต ถึงนายก ใช้ม.63 ดำเนินการทางวินัย




"ไพบูลย์ คุ้มฉายา" ประชุมหาข้อสรุป ส่งรายชื่อข้าราชการเอี่ยวทุจริต ถึงนายก ใช้ม.63 ดำเนินการทางวินัย

  ( 2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้( 3 เม.ย.)ตนเรียกประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เพื่อเร่งรัดการใช้อำนาจตามมาตรา 69 เรื่องการมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการทุจริต โดยจะมีการเสนอรายชื่อข้าราชการทุกระดับที่มีชื่อพัวพันกับการทุจริตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคสช. รับทราบ โดยการเสนอชื่อจะแบ่งกลุ่มข้าราชการออกเป็น 2 ระดับคือ ระดับสูงรายชื่อทั้งหมดจะถูกเสนอโดยตรงไปที่หัวหน้าคสช . ส่วนข้าราชการระดับล่างตั้งแต่ซี 8 ลงมาจะเสนอชื่อไปยังหน่วยงานต้นสังกัดให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา สำหรับการพิจารณารายชื่อข้าราชการกลุ่มเหล่านี้จะมีการพิจารณาร่วมระหว่างศอตช. ซึ่งการเสนอรายชื่อครั้งนี้ไม่ใช่การให้ออกหรือปลดออกตำแหน่งราชการเพราะเป็นขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นนี้เป็นเพียงการใช้คำสั่งที่ 69 เอาผิดทางปกครอง เพื่อให้ดำเนินการทางวินัย รวมถึฃการย้ายกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากตำแหน่งเดิมไม่ให้มีผลประโยชน์หรือมีอำนาจบังคับบัญชา

          ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศอตช. กล่าวว่า ป.ป.ท.จะนำเสนอรายชื่อข้าราชการที่พัวพันกับผลประโยชน์ไม่ชอบเพื่อให้มีการจัดการด้านวินัย ในส่วนป.ป.ท.ซึ่งมีอำนาจตรวจสอบความผิดของเจ้าหน้าที่ระดับล่างจะแยกการเสนอเป็น 2 ส่วนคือ ข้าราชการที่คณะกรรมการมีมติชี้มูลว่ามีความผิดเกี่ยวข้องกับการทุจริต และข้าราชการในกลุ่มที่ป.ป.ท.เข้าไปตรวจสอบพบความผิดและส่งรายชื่อไปให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัย
           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการนำเสนอรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในวันพรุ่งนี้( 3 เม.ย.) อาจมีการนำเสนอรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีการบุกรุกป่าของสนามกอล์ฟและสนามแข่งรถโบนันซ่า ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 10 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันออกน.ส.3 ก. จำนวน 4 คน และเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันออกโฉนดที่ดิน จำนวน 6 คน

ไม่มีความคิดเห็น: