PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

รัสเซียกับจีนร่วมกันในทุกมิติ สงครามเย็นรอบใหม่กำลังจะเกิดขึ้น? กับจุดเสื่อมของจักรวรรดิอเมริกา

รัสเซียกับจีนร่วมกันในทุกมิติ สงครามเย็นรอบใหม่กำลังจะเกิดขึ้น? กับจุดเสื่อมของจักรวรรดิอเมริกา
----------
หันมาดูการวิเคราะห์ข่าวด้านการเมืองระหว่างประเทศเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียจากสื่อฯฝั่งจีนกันบ้างครับ sputnik news เอาข่าวมาจาก "China Times" ของจีนที่พูดถึงความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซียต่อกรณีวิกฤตยูเครนมาเล่าต่อ โดย sputnik พาดหัวว่า "ความร่วมมือระหว่าง จีน-รัสเซีย กำลังจะเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก - สื่อฯจีน" วิกฤตยูเครนและการแซงชั่นจากตะวันตกถือว่าเป็นตัวเร่งการขยายความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับจีนในด้านการเมือง การทหารและด้านพลังมากขึ้น
นโยบายการเปิดกว้างของจีนและนโยบายมุ่งสู่ตะวันออกของรัสเซียสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันให้กับทั้งสองประเทศมากขึ้น เนื่องจากทั้งสองประเทศมีหลายอย่างโดยทั่วไปที่คล้ายกัน และกำลังมีความยินดีในการสร้างประวัติศาสตร์ในการพัฒนาด้านต่างๆในระดับทวิภาคีร่วมกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากกว่าคู่อื่นในสามกลุ่ม (จีน-รัสเซีย, จีน-เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น-อินเดีย) การขยายความร่วมมือของทั้งสองประเทศถูกผลักดันโดยวิกฤตในยูเครนและการแซงชั่นจากตะวันตก (ที่กระทำต่อรัสเซีย) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นภัยคุกคามของจักวรรดิอเมริกา
รัสเซียกับจีนได้มีการขยายความสัมพันธ์ร่วมกันทั้งด้านการเมือง กองทัพ พลังงาน การลงทุน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และทางเทคนิคในด้านอื่นๆอีก ปัจจุบันนี้ทั้งสองประเทศมียอดการค้าขายระหว่างกันถึง $100 billion (ประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท) และจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า
ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ผู้นำของประเทศต่างๆ 26 ประเทศจะเข้าร่วมงานวัน Victory Day ที่กรุงมอสโคว์ ซึ่งประกอบด้วย จีน อินเดีย เวียตนาม เกาหลีเหนือ มองโกเลีย (และคิวบา ซึ่งพึ่งจะรับปากอย่างเป็นทางการเมื่อวันก่อนนี้เอง) นอกจากนี้รัสเซียก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมใน "ธนาคารเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเซีย" (AIIB) ร่วมกับจีนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแนวความคิดของปธน.ปูตินที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งในความร่วมมือกับประเทศเหล่านี้
รัสเซียกับจีนได้บรรลุข้อตกลงกันโดยรัสเซียจะให้การสนับสนุนเครื่องบินรบ Su-35 ให้กับจีนด้วย คาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศประกาศแผนการซ้อมรบร่วมกันในทะเลดำระหว่างการเจรจากันครั้งหน้า
หนังสือพิมพ์จีนมองว่า นี่แสดงให้เห็นว่ากรุงมอสโคว์กับกรุงปักกิ่งกำลังยึดจุดยุทธศาสตร์ในการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯใน "สงครามเย็นยุคใหม่"
สมัยก่อนสหรัฐฯกับโซเวียตสร้างสงครามเย็นต่อกัน ตอนนั้นจีนก็เฉยๆ เพราะยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน เนื่องจากพึ่งจะรอดตายจากสงครามโลกครั้งที่สองมา แต่ตอนนี้จีนผงาดขึ้นมาแล้ว และเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับรัสเซียด้วย อียูก็รู้ว่าจะเลือกฝ่ายไหน และรู้แล้วว่าฝ่ายไหนกำลังจะรุ่งและฝ่ายไหนกำลังจะร่วง ดังนั้นอียูจึงหันมาร่วมมือกับจีน ไม่สนคำขู่ของสหรัฐฯอีกต่อไป สหรัฐฯตอนนี้ตกอับพยายามจะเอาเปรียบแม้กระทั่งกับพันธมิตรของตัวเองคืออียู ด้วยการออกกฎหมายเอาเปรียบด้านการค้าร่วมกัน ทางอีก็ประท้วงสหรัฐฯทั่วยุโรป
สหรัฐฯนี่จะแพ้เกมตัวเองตลอด คือเขาจะใช้ประชาชนของแต่ละประเทศในการต่อต้านรัฐบาลของประเทศนั้น เพื่อสร้างความแตกแยกในประเทศที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อ แต่หากรัฐบาลของประเทศเป้าหมายรู้ทันและใช้แผนเดียวกันนั้นย้อนศรสหรัฐฯบ้างโดยเรียกร้องให้ประชาชนของตน (หรือประชาชนร่วมมือกันเองหากนักการเมืองร่วมมือกับสหรัฐฯ) ลุกฮือต่อต้านนโยบายบางอย่างของรัฐบาลสหรัฐฯ สหรัฐฯก็จะถอย ไม่กล้าที่จะดันทุรังต่อไป ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันก็คือกรณีของเวเนซูเอล่าที่มีการล่ารายชื่อประชาชนกว่า 10 ล้านรายชื่อเพื่อต่อต้านนโยบายของโอบามาที่จะหาเรื่องรุกรานเวเนซูเอล่าให้ได้ และการที่ชาติลาตินอเมริกันผนึกกำลังกันต่อต้านสหรัฐฯ ก็ทำให้สหรัฐฯไม่กล้าที่จะเล่นไม้แข็งกับกลุ่มประเทศเหล่านั้นอีก
ส่วนที่ยุโรปนอกจากการประท้วงคัดค้าน TTIP ของสหรัฐฯแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ FBI ก็ออกมาเขียนรายงานกล่าวหาโปแลนด์และฮังการีว่ามีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ยิวร่วมกับนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 (Holocaust) นี่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯเข้าตาจนแล้วจึงงัดสารพัดลูกไม้ออกมาขู่พวกเดียวกันเอง และเพื่อกดดันให้อยู่ใต้อาณัติของสหรัฐฯต่อไป มิฉะนั้นสหรัฐฯก็จะตั้งข้อกล่าวหาลอยๆเอาแบบนี้แหละ
ประชาชนชาวโปแลนด์ก็ไม่ยอมสิ เขาก็ออกมาต่อต้านสหรัฐฯเรียกร้องให้ผอ.FBI ออกมากล่าวขอโทษชาวโปแลนด์ซะดีๆ แล้วสหรัฐฯก็กลับคำออกมากล่าวชื่นชมและยกย่องความกล้าหาญของชาวโปแลนด์และชาชนในหลายประเทศในยุโรปที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวยิวให้ลอดพ้นจากเงื้อมือของนาซี นี่ถ้าประชาชนในชาตินั้นๆแข็ง สหรัฐฯก็จะทำอะไรไม่ได้ หรือทำได้แต่ไม่สะดวกนัก การที่สหรัฐฯออกมาเล่นเกมนี้ก็คงจะเพื่อหาทางเล่นงานโปแลนด์ที่พักหลังนี้ออกมาคัดค้านการแซงชั่นรัสเซีย และโปแลนด์เริ่มจะหันมาให้ความร่วมมือด้านการค้ากับรัสเซีย สหรัฐฯพยายามจะทำให้ชาวยิวทั่วโลกต่อต้านโปแลนด์ และสร้างความวุ่นวายทางเชื้อชาติและศาสนาขึ้นมาในโปแลนด์อีก แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผลซะแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น: