PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

"สี จิ้นผิง" คุย "อองซาน ซูจี" แบบเบาๆ ต่างฝ่ายต่างไม่แตะประเด็นอ่อนไหว

12มิถุนายน 2558
มติชน

รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง แห่งประเทศจีน กล่าวต่อนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านเมียนระหว่างการเดินทางเยือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ตนหวังให้เมียนมารักษาความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างสองประเทศต่อไป
http://www.matichon.co.th/online/2015/06/14340864731434086488l.jpg

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีสีไม่ได้กล่าวถึงประเด็นการเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในประเทศของเมียนมาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ไม่มีรายงานระบุชัดเจนว่านางซูจีได้กล่าวถึงประเด็นการจำคุกนายหลิว เสี่ยวโป เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2553 ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี 2552 ฐานยั่วยุให้เกิดการบ่อนทำลายอำนาจรัฐ ซึ่งนักเคลื่อนไหวจำนวนมากได้เรียกร้องให้นางซูจีเจรจาประเด็นดังกล่าวต่อทางการจีน

หลายฝ่ายมองว่าการพบปะของนายสีและผู้นำฝ่ายค้านจากต่างชาตินั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ซึ่งประธานาธิบดีจีนระบุต่อนางซูจีถึงความคาดหวังต่อพรรคเอ็นแอลดีว่า จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์และนำเมียนมาไปสู่ความสัมพันธ์ภายใต้มุมมองอันมีเหตุมีผล

“ผมหวังและเชื่อว่าทางการเมียนมาจะมีความมั่นคงต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศโดยไม่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ภายใน และเมียนมาจะยังคลักดันมาตรการเชิงรุกในการพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป” ประธานาธิบดีจีนเผย ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผมหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเทศจีนและพรรคคอมมิวนิสต์อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมถึงความไว้วางใจ และรากฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพรรค และระหว่างรัฐ”

ขณะที่นางซูจีตอบรับว่า พรรคของเธอให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน และชื่นชมความสำเร็จของพรรคด้วย เมียนมาและจีนต่างเป็นเพื่อนบ้านกันและ “เพื่อนบ้านไม่สามารถถูกเลือกได้”

ทั้งนี้ นางซูจีชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2534 และใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วง 20 ปีภายใต้การควบคุมตัวในบ้านของเธอเนื่องจากต่อต้านการปกครองรัฐบาลทหารเมียนมา ก่อนจะถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2553 

ไม่มีความคิดเห็น: