วันที่ 30 กันยายน นายชูชาติ กันภัย ทนายความเข้าพบนายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล โมฮัมเหม็ด ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีมณฑลทหารบกที่ 11โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมา เปิดเผยว่า นายอาเดม ยอมรับว่า เป็นชาวอุยกูร์ ไม่ใช่คนสัญชาติตุรกี โดยสารภาพว่า เป็นผู้นำระเบิดไปวางจริง โดยทำตามคำสั่งของนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน ซึ่งเป็นผู้ที่นำนายอาเดม เข้ามาในประเทศไทย และรู้จักกับ นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้
แต่นายอาเดม อ้างว่าไม่ทราบสาเหตุที่ยอมทำตามคำสั่งของนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน แต่เชื่อว่า อาจจะเป็นเพราะบุญคุณที่นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน สัญญาว่า จะนำพาไปยังประเทศที่สาม และนายอาเดม ยังยอมรับว่า เป็นบุคคลที่ใส่เสื้อสีเทา ที่มีข้อความ ไอเลิฟไทยแลนด์จริง โดยนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน เป็นผู้ซื้อมาให้
สำหรับหนังสือเดินทาง นายอาเดม ยอมรับว่า เป็นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศตุรกี และปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคนอื่นๆในคดีนี้ ส่วนแนวทางการสู้คดี นายอาเดม ต้องการล่ามที่สื่อสารภาษาอุยกูร์ได้ เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารในภาษาอังกฤษ หรือภาษาตุรกี ได้คล่อง และในฐานะทนายความเตรียมทำรายงานมูลเหตุจูงใจเสนอต่อศาลทหาร กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณา ผ่อนปรนโทษเนื่องจากให้การรับสารภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น