PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พล.ต.โยงหยองอีก พ.อ.เผ่น ออกแม่สอดแล้ว ผบ.ตร.ชี้ข่าวจริง สอบ"เสี่ยปัญญา"


นที่ 03 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 09:42 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 65208 คน
ในฐานะผู้เสียหาย ประวุฒิ-ถึงไทย! แต่ไม่เข้าทำงาน

"พันเอก" เอี่ยวแก๊ง "หมอหยอง" เผ่นกบ ดานแม่สอด จ.ตาก จ่อโยงถึงพลตรีเพื่อนสนิทด้วยตามคำซัดทอดของหมอหยอง ฝ่ายทหารเร่งตามตัวมาส่งตำรวจ หากกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีไม่มีเว้น ผบ.ตร."บิ๊กแป๊ะ"ยอมรับเป็นไปตามกระแสข่าวมีนายทหารเกี่ยวข้อง ส่วน"บิ๊กตุ้ย-ประวุฒิ ถาวรศิริ"กลับจากลาพักผ่อนต่างประเทศมาถึงเมืองไทยแล้ว แต่ยังไม่เข้ามาทำงาน ขณะที่"เสี่ยปัญญา"เวิร์คพอยท์เข้าให้ปากคำแล้วในฐานะผู้เสียหาย


เมื่อ วันที่ 2 พ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวตำรวจจะขออนุมัติหมายจับนายทหารยศพ.อ. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในคดี ที่มีกลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง, พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท เลขานุการส่วนตัวหมอหยอง ว่า "ไม่มี ผมไม่เห็นอย่าไปพูดนำ มันไม่มีหรอก ถ้ามีตำรวจต้องรายงานผม เพราะผมดูแลตำรวจด้วย"


อย่าง ไรก็ตามมีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูงแจ้งว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่ามีนายทหารยศพ.อ. เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ทางต้นสังกัดกดดันให้นายทหารยศพ.อ.นายนี้ ยื่นใบลาออกจากราชการ เพื่อเข้าสู่ขบวนการสอบสวนตามกฎหมาย และเพื่อไม่ให้หน่วยงานต้นสังกัดต้องมัวหมองไปด้วย ล่าสุดพบว่านายทหารนายนี้ปรากฏตัวอยู่ บริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว เนื่องจากเกรงจะหลบหนีออกนอกประเทศ


รายงาน ข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สั่งการ เจ้าหน้าที่ตม.ตามด่านชายแดนทุกจังหวัด กวดขันและติดตามกลุ่มบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายกระทำความผิดมาตรา 112 หรือเกี่ยวข้องกับคดีหมอหยอง, สารวัตรเอี๊ยด รวมถึงกลุ่มของนายทหารยศพ.อ.นายนี้


ที่สำนักงานตำรวจแห่ง ชาติ (ตร.) พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงการลาหยุดพักของพล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ10) อดีตโฆษกตร. ซึ่งครบกำหนดการลาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า พล.ต.อ.ประวุฒิได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนแล้ว โดยแจ้งว่า เดินทางจากไปพักผ่อนต่างประเทศกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว แต่วันนี้พล.ต.อ.ประวุฒิ ยังไม่ได้เข้ามาทำงานแต่อย่างใด ทั้งนี้ตามธรรมเนียมของตร. เมื่อลาหยุดไปปฏิบัติภารกิจ หรือไปต่างประเทศ เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยหรือกลับเข้ามาทำงานตามปกติแล้ว ควรติดต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งกรณีของพล.ต.อ.ประวุฒิก็คือตน เพื่อแจ้งผู้บังคับบัญชารับทราบเพื่อการปฏิบัติราชการจะได้ต่อเนื่อง กรณีของพล.ต.อ.ประวุฒิ ก็ได้ติดต่อมาแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ได้มารายงานตัวที่ตร. อย่างไรก็ตามจากนี้หากพล.ต.อ.ประวุฒิขาดราชการเกิน 15 วัน ตามระเบียบแล้วผู้บังคับบัญชาสามารถสั่งให้ออกจากราชการได้เช่นเดียวกับข้า ราชการตำรวจคนอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว


ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.ประวุฒิมีแนวโน้มขาดราชการเกิน 15 วันหรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่สามารถเดาใจได้ เมื่อถามว่าพล.ต.อ.ประวุฒิทราบข่าวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตนเองหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ท่านก็ได้ข่าว แต่ทั้งหลายทั้งปวงขึ้นกับตัวท่านทั้งนั้น ตนเชื่อว่าท่านมีวุฒิภาวะสามารถตัดสินใจได้เองอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพล.ต.อ.ประวุฒิยังคงรับผิดชอบกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ" อยู่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกก็คงต้องทำหน้าที่ต่อไป แต่หากยื่นลาออกตนต้องหาผู้เข้ามาดำเนินการแทน ซึ่งอาจเป็นตำรวจระดับรองๆ ลงไป โดยภารกิจในส่วนของตร. คือด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ซึ่งตนเป็นประธานส่วนนี้ และประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ประสานกับกองทัพและรัฐบาลตลอดเวลา ทุกอย่างเรียบร้อยเต็มที่อยู่แล้ว


ต่อ ข้อถามถึงความคืบหน้าทางคดี พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า ล่าสุดศาลออกหมายจับนายศุกร์โข หรือเค ตามเสรี หนุ่มคนสนิทของสารวัตรเอี๊ยด ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้ ยังมีเพียงข้อหาเดียว ยังไม่มีข้อหาความผิดมาตรา 112 แต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ โดยนายศุกร์โขได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อย่างไรก็ตามหากหลักฐานพาดพิงถึงใครต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มียกเว้น ซึ่งส่วนนี้ พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รองผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ


เมื่อถามว่าปืนที่อยู่กับนายศุกร์โขเป็น ปืนของใคร ผบ.ตร.กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานเป็นปืนของพ.ต.ต.ปรากรม หรือสารวัตรเอี๊ยด เมื่อถามว่าตำรวจต้องสอบสวนทหารที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า การสอบสวนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือข้าราชการหน่วยใดก็ตามอยู่ในสำนวนของพล.ต.ท. ศรีวราห์อยู่แล้ว แต่ชุดสอบสวนได้เรียกมาแล้วหรือยัง ตนไม่แน่ใจ


เมื่อ ถามถึงกรณีกระแสข่าวว่ามีนายทหารยศพ.อ. เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมาตรา 112 พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า "ตอนนี้เป็นไปตามข่าว แต่ต้องให้ชุดสืบสวนสอบสวนรายงานมาให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนความเชื่อมโยงนั้นผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นในรูปแบบใด ไม่อยากตอบ เพราะอาจคลาดเคลื่อนได้ คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ต้องชัดเจนก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ทั้งนี้เชื่อว่าพล.ต.ท.ศรีวราห์ หัวหน้าชุดสอบสวน และพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. รองหัวหน้าชุดสืบสวน คงร่วมกันพิจารณาอยู่แล้วว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไรในขบวนการ และคงรายงานให้ผมทราบต่อไป"


ต่อข้อถามถึงกรณีนายตำรวจสังกัด บช.ก. 8 นาย ที่ถูกย้ายมาช่วยราชการก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งผลการสอบสวน คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์หน้าคงจะได้รับทราบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับคดี นี้หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน เพราะมีหลายจุด หลายประเด็น ที่เจ้าหน้าที่ต้องการคำตอบ เบื้องต้นอาจจะเป็นพยานผู้ให้ถ้อยคำ แต่หลังจากนั้นอาจเป็นอะไรก็แล้วแต่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปถึง


เมื่อ ถามว่าคำซัดทอดของนายศุกร์โข ระบุว่า พ.ต.ต.ปรากรมพยายามฝากให้เข้ารับราชการตำรวจ ผบ.ตร.กล่าวว่า เคยได้ยินข่าว แต่ยังไม่เห็นเอกสาร ตอนนี้พยายามสอบถามอยู่ ตำรวจจะต้องตรวจสอบทุกประเด็นที่มีเข้ามา อย่างประเด็นการฝากบุคคลเข้ารับราชการตำรวจก็เช่นเดียวกัน ต้องตรวจสอบแน่นอน ซึ่งเรื่องเกิดในช่วงที่ตนยังไม่ได้เป็นผบ.ตร. โดยต้องตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับความรู้ ความสามารถของผู้ที่เข้ามาเป็นตำรวจ จากการฝากของพ.ต.ต.ปรากรม อย่างไรก็ตามการฝากถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่การรับนั้นถือเป็นเรื่องของตร. บางครั้งอาจจะฝากได้ บางครั้งอาจฝากไม่ได้ ต้องตรวจสอบ


เมื่อถามว่านายศุกร์โขมี ความสัมพันธ์อย่างไรกับพ.ต.ต.ปรากรม ผบ.ตร.กล่าวว่า คงเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ตนไม่ได้ทราบรายละเอียดส่วนตัวเท่าไหร่ ทุกคนอาจเป็นเพื่อนพี่น้องกันได้ทั้งนั้น ส่วนจะลึกซึ้งอย่างไรนั้นไม่ทราบ เมื่อถามถึงทรัพย์สินของหมอหยองที่โอนให้ญาติจะดำเนินการยึดคืนมาอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ดำเนินการแล้ว เรื่องนี้ตรวจสอบอย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว ตอนนี้ได้เรียกญาติมาสอบถามแล้วตามขั้นตอน ต้องดูว่าร่วมมือกันจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ได้รับฝากทรัพย์สินจากผู้ต้องหาเท่านั้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ต่อข้อถามถึงกรณีบริษัทผู้ เสียหายจากการถูกกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ เช่น นายปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าของบริษัทเวิร์คพ้อยท์ ได้สอบปากคำหรือยัง ผบ.ตร.กล่าวว่า ชุดสอบสวนต้องดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนของนายปัญญาน่าจะเข้ามาให้การแล้ว แต่ตนไม่แน่ใจ แต่กรณีนี้เป็น ผู้สนับสนุนซึ่งไม่น่าจะรู้เรื่องการกระทำผิด อาจให้เงินไป แต่คงไม่ทราบขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ หลังจากนั้น ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ส่วนผู้ที่ถูกขบวนการของผู้ต้องหาหลอกลวงสามารถเข้าแจ้งความได้


เมื่อ ถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีความแตกแยกในตร.จริงหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า "ผมอยู่มา ผมเชื่อว่าไม่มีความแตกแยก แต่ใครแตกแยกกับใคร หรือกลุ่มใดแตกแยกกับกลุ่มใด ใครทราบก็ช่วยแจ้งผมด้วยแล้วกัน"


ทั้ง นี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบห้องทำงานของพล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ10 ชั้น 4 อาคาร 1 ตร. ไม่พบเห็นพล.ต.อ.ประวุฒิ แต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ประจำห้องทำงานของพล.ต.อ.ประวุฒิทำงานตามปกติ


รายงาน ข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวนคดีนี้เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากฝ่ายทหารว่า หลังจากที่นายสุริยันหรือหมอหยอง ยอมเปิดเผยถึงผู้ที่มีส่วนพัวพันกับกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการ ปั่นเพื่อแม่ โดยเฉพาะการหากินกับเสื้อที่ใช้ในโครงการนี้ ซึ่งเริ่มพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ทหารบางรายนั้น ขณะนี้กองทัพกำลังเตรียมนำตัวนายทหารที่หมอหยองให้การพาดพิงมาให้พนักงานสอบ สวนสอบปากคำ และทำการรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหมอหยองจริงหรือไม่ หากมีส่วนกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย


โดยรายแรกที่จะ นำตัวมา เป็นนายทหารยศ "พ.อ." แต่ล่าสุด มีรายงานว่าไม่สามารถติดตามตัวพ.อ.รายนี้ได้ โดยมีกระแสข่าวว่า มีผู้พบเห็นพ.อ.คนนี้อยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบว่าเดินทางหลบหนีข้ามแดนเข้าไปยังพื้นที่ชนกลุ่มน้อย แล้วหรือไม่ หรือเพียงแค่กบดานอยู่บริเวณชายแดนเพื่อดูสถานการณ์สักระยะ โดยกำลังเร่งติดต่อผ่านผู้บังคับบัญชาและเพื่อนสนิท เพื่อขอให้เข้ามารายงานตัวเพื่อให้ตำรวจสอบสวนก่อน โดยรับปากว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามมีข้อมูลว่า นายทหารยศพ.อ.ผู้นี้มีความชำนาญในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะย่านแม่น้ำสาละวิน มีเครือข่ายกว้างขวางตามแนวชายแดน


ข่าว แจ้งด้วยว่า นอกจากพ.อ.รายนี้แล้ว ยังมีข้อมูลจากหมอหยองพาดพิงไปถึง "พล.ต." อีกราย ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เรื่องเสื้อในโครงการสำคัญด้วย ซึ่งทางกองทัพได้ประสานมายังพนักงานสอบสวนแล้วว่า เตรียมจะนำตัวพล.ต.อีกราย ส่งมอบให้สอบปากคำเพื่อหาความเกี่ยวพันที่ชัดเจน ทั้งนี้พล.ต.คนนี้กับพ.อ.ที่กำลังติดตามตัวดังกล่าว เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่มีความสนิทสนมกันมาก ขณะเดียวกันยังตรวจพบภาพถ่ายทั้งพล.ต. และพ.อ.ดังกล่าวถ่ายภาพร่วมกับหมอหยองด้วย หลังจากร่วมทำงานกันใกล้ชิดในกิจกรรมต่างๆ จนถูกตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของหมอหยองด้วย


ล่า สุด จากการตรวจสอบของสตม.พบว่า พ.อ.นายดังกล่าวนั้น ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยผ่านทางด่านตม.แม่สอด เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้าจะมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น: