PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ไพศาล:การตั้งสังฆราช

′ไพศาล′ออกตัวเเรง ติงแก๊งวิ่งราวอำนาจพระสังฆราช ย้ำ ′บิ๊กตู่′มีอำนาจใช้ดุลยพินิจ 
https://t.co/MuoQ2zQYr8
##kook kai

  เมื่อวันที่ 7 มกราคม นาย พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.
อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol กล่าวถึงประเด็นที่มีการกล่าวถึงในทำนองว่า การเลือกสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ ว่าต้องตั้งเรื่องจาก "มหาเถรสมาคม" เพราะไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติเป็นอย่างอื่น และมหาเถรสมาคมไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกองค์อื่น เพราะถูกบังคับตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 แล้วว่า ต้องเป็นสมเด็จที่มี "อาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ซึ่งไม่ใช่พรรษา" ว่า

อย่าคิดว่าเคยวิ่งราวชิงอำนาจสมเด็จพระสังฆราชสำเร็จมาหนหนึ่งแล้ว จะทำซ้ำได้อีก คนเขารู้ทันกันหมดแล้ว ครั้งนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กำลังปฏิบัติพระภารกิจในพระอุโบสถวัดบวร พวกแก๊งวิ่งราวกลับตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อ้างว่าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เป็นบาปนักบาปหนา จนหลวงตาพระมหาบัวและพระป่ากว่า 400 รูปประชุมสงฆ์ ลงพรหมทัณฑ์สวดคว่ำบาตรไม่ให้ไปสวรรค์นิพพานได้อีก จนบัดนี้ก็ยังแก้ไม่ตก

นายไพศาล กล่าวต่อว่า "มาครั้งนี้ ก็ทำท่าจะวิ่งราวอีกแล้ว กำลังหลอกใครต่อใครว่าการตั้งสมเด็จพระสังฆราชเป็นอำนาจของมหาเถร ที่ต้องเลือกตามอาวุโสโดยสมณศักดิ์ แล้วนายกฯ เป็นแค่ไปรษณีย์ จะต้องนำความกราบบังคมทูลไปตามนั้น นี่มันเตรียมการวิ่งราวกันชัด ๆ"

ทั้งนี้ ขอประกาศให้รู้โดยทั่วกันว่า หนึ่ง การนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจใช้ดุลยพินิจว่าสมควร หรือถึงเวลา หรือเหมาะสมที่จะนำความกราบบังคมทูลเมื่อใด อย่างไร ใครจะมาบังคับไม่ได้

และสอง ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะนำความขึ้นกราบบังคมทูล ก็ต้องพิจารณา 4 ประการ
(1) มหาเถรให้ความเห็นชอบว่าสมควรเสนอสมเด็จพระราชาคณะรูปใด

(2) สมเด็จพระราชาคณะรูปนั้น มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์

(3) สมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์นั้น สามารถปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชได้ ถ้าปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องเสนอสมเด็จพระราชาคณะลำดับถัดไปโดยลำดับ

(4) สมเด็จพระราชาคณะรูปนั้น จะทรงเป็นสกลมหาสังฆปริณายก คือเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคณะสงฆ์ทั้งประเทศและของพุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ จะสามารถทำหน้าที่ถวายพระธรรมและคำอธิบายทางพระพุทธศาสนาแก่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ได้หรือไม่ มีความบริสุทธิ์ในศีล มีจริยาวัตรอันงาม ไม่ต้องคดีอาญาแผ่นดิน ไม่ตกเป็นที่ครหานินทาเรื่องหนีภาษี เรื่องสั่งสมทรัพย์สิน เรื่องรับสินบน เรื่องตั้งคนปาราชิกให้ดำรงสมณศักดิ์ เรื่องตั้งตนเสมอเจ้า มอบพัดยศแก่ผู้ที่ไม่ไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานเสียเอง เหล่านี้ เป็นต้น

เมื่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาโดยชอบ และเห็นสมควรนำความขึ้นกราบบังคมทูลแล้ว ยังเป็นอำนาจของคณะมนตรีที่จะกลั่นกรองตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสม จากนั้นยังเป็นพระราชอำนาจที่จะทรงสถาปนาอีกด้วย

"การที่ขบวนการวิ่งราวอำนาจอ้างแต่เพียงอำนาจมหาเถรอ้างแต่เพียงอาวุโสโดยสมณศักดิ์เพียงสองเรื่องแล้วตัดอำนาจความถูกต้องชอบธรรมทั้งสิ้นทั้งปวงจึงเป็นเรื่องที่สาธุชนทั้งหลายพึงเข้าใจ พึงติเตียน บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง เราจึงอยู่รอดปลอดภัยกันมาได้ จงวางใจเถิด" นายไพศาล กลาวทิ้งท้าย

cr..matichon online

ไม่มีความคิดเห็น: