PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ทหารเชิญประวิตรพบ เตือนเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ คสช.

pravit-headline


ประวิตรเผยทหารนัดพบเพื่อเตือนให้ระวังการแสดงความเห็นต่อต้าน คสช. สวนกลับไม่สามารถทำตามคำเตือนได้ เพราะต้องทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชนที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คสช. ต่อไป
วันนี้ (3 ก.พ. 2559) เวลาประมาณ 11.00 น. นายทหารสองนายนัดพบประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์ออนไลน์ข่าวสด ภาคภาษาอังกฤษหรือ ‘KHAOSOD ENGLISH’  หนึ่งในผู้เคยถูกเรียกให้ไปรายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อดื่มกาแฟ และแนะนำหัวหน้าหน่วยคนใหม่ให้รู้จักกับนายประวิตร แต่หัวหน้านายทหารรายดังกล่าวที่มีอำนาจในเขตบางกะปิ ซึ่งเป็นพื้นที่ตามสำเนาทะเบียนบ้านของนายประวิตรไม่ได้มาพบตามนัด จึงส่งนายทหารทั้งสองนายมาพูดคุยแทน
ผู้สื่อข่าวอาวุโส KHAOSOD ENGLISH เปิดเผยว่า นายทหารทั้งสองนายกล่าวตักเตือนเขาด้วยท่าทีเป็นมิตรว่า ให้ระวังเรื่องการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาล คสช. ผ่านทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
“ผมถูกนายทหารนายนี้ติดต่อหลายครั้งเพื่อขอพบในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนในที่สุดจึงยอมมาพบตามคำร้องขอจากนายทหารคนนี้ โดยเขาอ้างเหตุผลที่อยากพบว่า ต้องการแนะนำหัวหน้าหน่วยคนใหม่ที่มีอำนาจความรับผิดชอบในพื้นที่บางกะปิซึ่งเป็นพื้นที่ตามสำเนาทะเบียนบ้านของผม” นายประวิตรกล่าว
image1 (2).JPG
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเนื้อความการพูดคุย โดยนายประวิตรได้ชี้แจงเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ว่า นายทหารไม่ได้เตือนให้ระวังกลุ่มใต้ดินที่กำลังวางแผนจะทำร้ายร่างกายกลุ่มคนที่แสดงความไม่เห็นด้วยและต่อต้านการทำงานของรัฐบาลนี้ แต่เพียงให้ข้อมูลว่าทหารต้องจัดการกับกลุ่มใต้ดินในพื้นที่เขตบางกะปิ และเขาได้บอกทหารด้วยความเป็นห่วงว่าให้ระวังตัวด้วยเท่านั้น
นายประวิตร กล่าวต่อไปว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่า ทหารจะมีแผนการควบคุมตัวเขาไปยังค่ายทหาร แต่ยอมรับว่ามีโอกาสที่เขาจะถูกควบคุมตัวไปยังค่ายทหารเพื่อคุมขังเป็นครั้งที่ 3 เช่นกัน ทั้งนี้ หากถูกร้องขอให้ยุติการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลภายใต้ คสช. ก็จะไม่ปฎิบัติตาม เพราะต้องทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชนที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เป็นหน้าที่หลักของสื่อมวลชน
“ผมคงไม่หนีไปไหน ยืนยันจะทำหน้าที่สื่อมวลชนในประเทศนี้ต่อไป สำหรับการมาพบเจ้าหน้าที่ทหารในวันนี้ก็ได้แจ้งยังเจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติ รวมถึงแจ้งองค์กรที่มีหน้าที่ในการดูและเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยไว้แล้ว” นายประวิตรกล่าว และว่า “ในช่วงบ่ายผมมีนัดพูดคุยสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอังกฤษ  โดยจะแสดงความไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงจะแลกเปลี่ยนและชี้ให้เห็นถึงข้อเสียในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์เป็นประธานกรรมาธิการฯ อีกด้วย”

ไม่มีความคิดเห็น: