PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ผู้แทนรัฐสภายุโรปย้ำ รัฐบาลไทยต้องเปิดให้อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญอย่างเสรี

ผู้แทนรัฐสภายุโรปย้ำ รัฐบาลไทยต้องเปิดให้อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญอย่างเสรี ไม่เช่นนั้นการปรองดองจะไม่เกิดขึ้น 

คณะสมาชิกรัฐสภายุโรป นำโดยนายแวร์เนอร์ ลันเก้น ประธานกลุ่มความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน (DASE)  พร้อมด้วยคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งรัฐสภายุโรป รวม 8 ราย  เข้าพบตัวแทนจากกระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย รวมถึงคณะกรรมการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แกนนำของพรรคการเมืองหลักในไทย รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี 2 ราย ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นเรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. นี้


นายลันเก้นกล่าวย้ำว่า การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการดำเนินตามแผนสู่ประชาธิปไตยของรัฐบาลไทย จะต้องเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดต้องสามารถอภิปรายถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างเปิดเผย ครอบคลุม และมีเสรีภาพ การออกกฎหมายที่ระบุว่าผู้วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญอาจถูกลงโทษ จึงเป็นเรื่องที่สมาชิกรัฐสภายุโรปค่อนข้างกังวล เพราะอาจทำให้ตีความไปได้ว่า กระบวนการลงประชามติไม่มีเสรีภาพเพียงพอ และการปรองดองไม่อาจจะเกิดขึ้นได้หากไม่มีการเคารพความคิดเห็นของคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบจากการลงมติของประชาชน จะมีมาตรการคว่ำบาตรไทยหรือไม่ นายลันเก้นระบุว่าจะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และหารือกับตัวแทนสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากสมาชิกสภายุโรปไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ พร้อมย้ำว่าสมาชิกสภายุโรปเข้าใจดีว่า ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์และธรรมเนียมปฏิบัติของตนเอง และไม่คิดที่จะชี้นำในเรื่องใด

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภายุโรปเกรงว่า รัฐบาลทหารอาจยื้ออำนาจและทำให้ประชาชนตกอยู่ในความหวาดกลัว ทั้งการที่ประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะถูกกองทัพแทรกแซงในทุกครั้งที่เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในขึ้น ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความหวังว่า ประเทศไทยจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตยได้ในที่สุด โดยประเมินจากการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายต่าง ๆ ของไทย พบว่าแต่ละฝ่ายมีความตั้งใจที่จะผลักดันกระบวนการปรองดอง รวมถึงพยายามสานต่อด้านความร่วมมือต่าง ๆ ตลอดจนต้องการรื้อฟื้นการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ที่หยุดชะงักไปนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารปี 2557

ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่รัฐบาลไทยและสมาชิกรัฐสภายุโรปได้หารือกันนอกจากนี้ ได้แก่ การสานต่อความร่วมมือด้านการแก้ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้แรงงาน การทำประมงผิดกฎหมาย สถานการณ์แรงงานข้ามชาติ และปัญหาการค้ามนุษย์

ไม่มีความคิดเห็น: