PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สหรัฐฯ ผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมาเพิ่มเติม

สหรัฐฯ ผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมาเพิ่มเติม
รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีคำสั่งยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแก่ 10 บริษัทซึ่งเป็นกิจการของรัฐบาลเมียนมา ได้แก่ ธนาคาร ธุรกิจค้าไม้ และกิจการเหมืองแร่ต่างๆ หลังประธานาธิบดีเมียนมาซึ่งเป็นพลเรือนคนแรกในรอบกว่า 50 ปีเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การผ่อนผันทางเศรษฐกิจครั้งนี้จะส่งผลต่อเมียนมาในวงจำกัด เพราะนักธุรกิจใหญ่ของเมียนมากว่า 100 คนยังอยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลต้องห้ามที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามประชาชนและภาคเอกชนของอเมริกันร่วมทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยอย่างเด็ดขาด และกองทัพเมียนมายังคงเป็นผู้กุมอำนาจในการถือครองกิจการอีกหลายประเภท แต่คำสั่งของสหรัฐฯ ที่มีต่อเมียนมาครั้งล่าสุด มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนทางการค้า และเปิดช่องทางให้มีการทำธุรกรรมทางการเงินเกิดขึ้น
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพยายามกดดันรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่องเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านประชาธิปไตย และเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ยังคงกังวลเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นกับชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา
สหรัฐฯ เริ่มผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรแก่เมียนมาตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โดยคาดว่าการค่อยๆ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะช่วยให้การเข้าไปประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ง่ายดายขึ้น ขณะที่บริษัทสัญชาติอเมริกันที่สำคัญอย่างบริษัทเจเนรัล อิเล็กทริก และบริษัทโคคาโคล่า ได้เข้าไปตั้งกิจการในเมียนมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
นายปีเตอร์ ฮาร์เรล ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของสถาบันวิเคราะห์ความมั่นคงอเมริกัน Center for a New American Security เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าหากไม่สามารถทำธุรกิจร่วมกับกิจการที่ทหารเมียนมาเป็นเจ้าของ การเข้าถึงส่วนอื่นๆ ของธุรกิจในเมียนมาก็เป็นเรื่องยากเกินเอื้อม

ไม่มีความคิดเห็น: