PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เมื่อ"อังกฤษ"ตัดสินใจทิ้ง"ปัจจุบัน"เพื่อรำลึกถึง"อดีต"

Chai Seeho

เมื่อ"อังกฤษ"ตัดสินใจทิ้ง"ปัจจุบัน"เพื่อรำลึกถึง"อดีต"
เราคงเคยได้ยินชื่อเหล่านี้...
เซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton) ผู้ค้นพบและตั้งกฎแรงโน้มถ่วง,ค้นพบทฤษฎีเกี่ยวกับการหักเหของแสง,ตั้งกฎการเคลื่อนที่
วิลเลียม ฮาร์วีย์ (William Harvey) ผู้ค้นพบการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายมนุษย์
ไมเคิล ฟาราเดย์ (Micheal Faraday) ผู้พบว่าอำนาจแม่เหล็กเหนื่ยวนำทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้สร้างเครื่องไดนาโม
ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) ผู้ตั้งทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง (Alexander Fleming) ผู้ค้นพบยาปฏิชีวนะ ชื่อ"เพนนิซิลลิน"
วิลเลียม เชกสเปียร์ ( William Shakespeare) กวีเอกของโลก
เซอร์ อาร์เทอร์ โคนัน ดอยล์ (Sir Arthur Conan Doyle) ผู้ประพันธ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์ (Sherlock Holmes)
เอียน เฟลมมิง (Ian Fleming) เจ้าของผลงานนิยายชื่อดัง เจมส์ บอนด์ 007 (James Bond 007)
จอห์น เมนาร์ด เคนส์ (John Maynard Keynes) ผู้ริเริ่มทฤษฏี ทางเศรษฐศาสตร์มหภาคเป็นคนแรกและได้รับยกย่องว่าเป็น “บิดาของวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค”
อดัม สมิธ (Adam Smith) ผู้ได้รับสมญา "บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์"
นึกออกไหม....อะไรเหมือนกัน
คำตอบก็คือ พวกเขาทั้งหมดเป็น"ชาวอังกฤษ"
นี่จึงไม่ต้องบอกว่าในอดีต...อังกฤษ"ยิ่งใหญ่"แค่ไหน

วันนี้ ผลการลงประชามติของชาวสหราชอาณาจักรที่จบลงโดยฝ่าย"ออก"ชนะอย่างเฉียดฉิว ด้วยสัดส่วน 51.9% ต่อ 48.1% แปลว่าอะไร
คำตอบสั้นๆของผมก็คือ คนอังกฤษส่วนใหญ่(คือเกินครึ่ง) อยากกลับไปเป็น"อังกฤษ"มากกว่าจะเป็น"อียู"ที่ไม่ตอบโจทย์ชีวิตในวันนี้ โดยเฉพาะเรื่อง"เศรษฐกิจ" ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการอยากหวนไปสู่วันชื่นคืนหวานของชาวอังกฤษ ไม่ใช่หวานอมขมกลืนอยู่แบบทุกวันนี้
กรณีของ"กรีซ" เป็นตัวอย่างที่ทำให้คนอังกฤษตัดสินใจ"ออก" เพราะเห็นแล้วว่า สุดท้าย"อียู"ไม่มีน้ำยาที่จะช่วย
แถมอาจจะลากอังกฤษลงคลองไปด้วย พวกเขาจึงเลือกร้องเพลง "ถอยดีกว่า..ไม่เอาดีกว่า.."
การออกจากอียูวันนี้(แม้อาจจะไม่ทันที) ถึงแม้จะไม่มีอะไรยืนยันว่าจะยิ่งใหญ่แบบ"อดีต" หรือ"อนาคต" จะกลับมารุ่งเรือง(แบบอดีต)หรือไม่ แต่พวกเขาเห็นแล้วว่า"ปัจจุบัน"รุ่งริ่ง...จึงขอเสี่ยงตายดีกว่าตายวันนี้
พวกเขาเลือกที่จะ"ออก"ทั้งๆที่ไม่รู้จะเริ่มแบบไหน
เรียกว่าวันนี้ คนอังกฤษเองก็ยังงงกันทั้งประเทศ
ตอนนี้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในเรื่องเศรษฐกิจก็คือภาวะเศรษฐกิจที่เคยได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกอียูจะหมดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีส่งออกสินค้าไปขายอียูหรือขนาดตลาด ที่อังกฤษจะต้องขายเองและขายแข่งกับสมาชิกอียู ซึ่งเป็นโจทย์ยากสำหรับรัฐบาลใหม่ที่ยังไม่รู้ว่า"ใคร"จะมาเป็นนายกฯแทน"เดวิด คาเมรอน" ที่ลาออกทันทีที่ผลโหวตออกมา โดยบอกว่าเขาไม่มีความสามารถพอที่จะนำพาประเทศไปในยุคต่อไป ...ยุคโดดเดี่ยวตัวเอง
แต่คนอังกฤษก็มีสิทธิ์"ฝันหวาน"ว่าการงานของพวกเขาจะไม่มี"คนอียู"มา"แย่งงาน"
นี่รวมถึงฟุตบอลอย่างพรีเมียร์ลีก ที่คงจะเริ่มเจรจากันในเร็วๆนี้ว่าอีกกี่ปีที่กฎนักเตะอียูไม่ถือเป็นโควตานักเตะต่างประเทศต้องยกเลิก(ยังไงคงไม่เริ่มซีซันใหม่ที่จะเปิดในเดือนสิงหาคมแน่นอน)
ขณะเดียวกัน ที่น่าสนใจผลการโหวตครั้งนี้ก็คือ ผลการโหวตของชาวสหราชอาณาจักร ..
เพราะการโหวตวันนี้ คนอังกฤษและเวลส์ ส่วนใหญ่ลงมติ"ออก" ขณะที่คนสก๊อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ เลือกที่จะ"อยู่"กับอียูต่อ
จำได้ไหม ...ไม่นานมานี้ มีการโหวตเรื่อง"สก๊อตแลนด์"ขอออกสหราชอาณาจักร แต่ผลปรากฎว่าชาวสก๊อตแลนด์ 55% เลือกจะอยู่ภายใต้สหราชอาณาจักรต่อไป
การโหวตของสก๊อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ที่ต่างจากอังกฤษและเวลส์ เชื่อว่าเราอาจได้เห็นการแยกตัวของสก๊อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือออกจากสหราชอาณาจักรในอนาคต
ที่สำคัญก็คือ ทันทีที่ผลโหวตออกมาว่า"สหราชอาณาจักร"ไม่เป็นสมาชิก"อียู" ...โลกก็เปลี่ยนไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: