รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกประชุมฉุกเฉินหลังชาวอังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินเยนทุบสถิติสูงกว่า 35.30 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นนิกเคอิร่วงต่ำที่สุดในรอบหลายปี                นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะทุกวิถีทางเพื่อเรียกคืนเสถียรภาพในตลาดเงินหลังจากชาวอังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่าผลประชามติในครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อตลาดเงินและเศรษฐกิจทั่วโลก                ผลการลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรปของชาวอังกฤษ ทำให้ค่าเงินเยนพุ่งสูงขึ้นไปถึงกว่า 35.30 บาทต่อ100เยน ซึ่งถือว่าแพงที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่ตลาดหุ้นกรุงโตเกียวทำสถิติลดต่ำที่สุดในรอบปี โดยดัชนีนิเคอิลดลงกว่า 1,300 จุดไปปิดที่ 14,952, ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดในวันเดียวยิ่งกว่าเหตุวิกฤตการเงินของสหรัฐฯเมื่อปี 2008 
  | 
        นายทาโร อะโซ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น รวมทั้งนายฮะรุฮิโคะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ต่างแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ในตลาดเงินขณะนี้ และระบุว่าจะต้องหารือกับสมาชิกกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม หรือ จี 7 เพื่อกู้คืนเสถียรภาพทางการเงิน                อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในญี่ปุ่นประเมินว่าเป็นเรื่องยากมากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นและอีก 6 ชาติอุตสาหกรรมจะสามารถหยุดยั้งความปั่นป่วนในตลาดเงินได้ เพราะจะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ตามมาอีกมากมายจากการถอนตัวจาก EU ของอังกฤษ 
  | 
        อังกฤษเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากในสหภาพยุโรป อีกทั้งเป็นที่หมายการลงทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากสหรัฐ จีน และเนเธอร์แลนด์                สถิติของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นและธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงของญี่ปุ่นในอังกฤษอยู่ที่เกือบ 100,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นปีที่แล้ว                เงินทุนของญี่ปุ่นร้อยละ 32 ลงไปที่ภาคการเงินการคลังและประกัน ส่วนเงินทุนร้อยละ 14 ไปที่ภาคการทำเหมือง ซึ่งรวมถึงโครงการก๊าซธรรมชาติและน้ำมันทะเลเหนือ.  | 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น