PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คดีพลิก ! ศาลสั่งคุก “พิจิตต” 5 ปี ซื้อที่ดินตาบอดจอดรถขยะ กทม.



คดีพลิก ! ศาลสั่งคุก “พิจิตต” 5 ปี ซื้อที่ดินตาบอดจอดรถขยะ กทม.
วันที่ 27 ธ.ค.59 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. ,และพวกรวม 8 คน ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตฯ,ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินฯ สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ และร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" ตามประมวลกฎหมายอาญา ในการจัดซื้อที่ดินตาบอดมูลค่า 270 ล้านบาท ปี 2540 สำหรับจอดรถขยะกทม.
ศาลชั้นต้นพิจารณาเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2558 ยกฟ้องนายพิจิตต แต่วันนี้ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ให้จำคุกนายพิจิตต ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญา จำคุกคนละ 5ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้นั้น เกิดขึ้นช่วงปี 2538-2540 สมัยที่นายพิจิตต ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้ทุจริตจัดซื้อที่ดินจอดรถขยะ รถน้ำ ของกรุงเทพมหานครย่านบางซื่อ โดยการจัดซื้อดังกล่าวเป็นการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง และยังเป็นที่ดินตาบอด
โดยคดีนี้อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร ,นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯกทม. กับพวกรวม 8 คน เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า
การเสนอขายที่ดินให้กับกรุงเทพมหานครดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเสนอขายในราคาที่ดินที่สูงกว่าราคาประเมินจริง เพราะหนึ่งในจำเลยได้ประกาศซื้อที่ดินในเขตบางซื่อ และได้สอบถามราคาประเมินและราคาขายที่ดินทั้งจากสำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปรากฏราคาใกล้เคียงกัน
รวมทั้งลักษณะที่ดินที่จัดซื้อเป็นที่ดินพร้อมใช้งานทันที จึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อไม่ขัดต่อระเบียบกรุงเทพมหานครในการใช้วิธีซื้อพิเศษ โดยไม่ประกวดราคาดังนั้น นายพิจิตตกับพวกบางส่วนซึ่งเป็นจำเลยไม่มีความผิด แต่นายสมคาด สืบตระกูล อดีตเลขานุการผู้ว่ากรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 4 และนายชวน พัฒนวรานนท์ อดีตผอ.เขตบางซื่อ จำเลยที่ 8
พยานหลักฐานโจทก์ที่ได้ความจากเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เบิกความสอดคล้องกันว่าหลังจาก นายชวนได้จดทะเบียนรับโอนที่ดินในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2540 เจ้าของที่ดินได้ออกเช็ค 18 ล้านบาท ผ่านนายหน้าขายที่ดิน แต่มีการนำเช็คเข้าบัญชีเงินของนายสมคาดและนายชวน เชื่อว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินของกรุงเทพมหานคร
จึงตัดสินว่านายสมคาด มีความผิดฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 จำคุก 8 ปี ส่วนนายชวน จำเลยที่ 8 มีความผิด ฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 10 ปี
คดีนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 19 ส.ค.2551 ชี้มูลความผิดนายพิจิตต กับพวก 11 คน ในการจัดซื้อที่ดินตาบอดมูลค่า 270 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2540 สำหรับจอดรถขยะกทม. และส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกด้วย
.....................
s.news

ไม่มีความคิดเห็น: