นพ.เจตน์ กล่าวว่า โดยคณะกรรมาธิการการศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ที่มีพล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ให้เหตุผลการเสนอแก้ไขดังกล่าวได้รับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องมาแล้ว และเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชที่ผ่านมา รวมถึงกลับไปใช้ความเดิมตามโบราณราชประเพณี ที่เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ. นี้ จะเสนอเข้าที่ประชุม สนช. ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ ซึ่งจากการประสานงานไปยังรัฐบาล ทาง ครม. จะส่ง นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณารับเรื่องไปศึกษา ส่วนจะส่งเรื่องกลับมาให้ทาง สนช. เมื่อไหร่อย่างไรขึ้นอยู่ทาง ครม. แต่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช. ได้ภายหลังปีใหม่
เมื่อถามว่า แสดงว่า ตัดขั้นตอนการเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชของมหาเถรสมาคมออกไปใช่หรือไม่ นพ.เจตน์ กล่าวว่า หากดูตามถ้อยคำจะเป็นลักษณะนั้น คือ ตัดตอนของมหาเถรสมาคมออกไป ถือเป็นการผ่าทางตันปัญหา แต่ทั้งนี้ คงต้องดูการศึกษาของคณะกรรมาธิการ และ ครม. อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะพิจารณา 3 วาระรวด โฆษกวิป สนช. กล่าวว่า ที่ประชุมวิปสนช. ยังไม่ได้กำหนดจะพิจารณาอย่างไร แต่จะต้องทำโดยเร็ว เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะเกิดแรงต่อต้านจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากกฎหมายเดิมใช้มาเป็นเวลานาน นพ.เจตน์ กล่าวว่า คงต้องสื่อ ตนไม่ทราบว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่ แต่ว่ากฎหมายต้องรีบทำ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกฎหมายใหม่ยังไม่มีการประกาศใช้แสดงว่าจะยังไม่มีการตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่หรือไม่ นพ.เจตน์ ถ้าจะตั้งก่อนกฎหมายบังคับใช้ก็ได้ แต่หากกฎหมายเสร็จแล้วจึงจะมีผลใช้บังคับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น