PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

ไม่ยึดติดกับอดีต มุ่งไปข้างหน้า

ไม่ยึดติดกับอดีต มุ่งไปข้างหน้า

ตาม “คอนเซปต์” การปรองดองรอบใหม่ที่หัวขั้วอำนาจปัจจุบันอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. กับพี่ใหญ่อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม วางเกณฑ์ไว้

นั่นจึงไม่มีการนิรโทษกรรมล้างผิด ไม่พูดถึงการอภัยโทษ เลี่ยงโจทย์ปัญหาโลกแตกที่ทำให้การปรองดองต้องสะดุดมาตลอด

รวมถึงการปฏิเสธการใช้โมเดล “66/23” ยุทธศาสตร์สลายคอมมิวนิสต์ ของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

เน้นสูตรปรองดองของ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” เท่านั้น

เรื่องของเรื่อง “มากคนมากความ” ถ้าเอาตามฝ่ายนั้น ก็ต้องเจอเสียงต้านจากฝ่ายนี้

อย่างที่เห็นลำพังแค่ไม่ทันไร พรรคเพื่อไทยยังตั้งแง่ใส่ทหาร คสช.เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่ใช่คนกลาง แล้วถ้าเอายุทธศาสตร์ของ “ป๋าเปรม” ที่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขคนสำคัญมาเป็นโมเดลปรองดอง มันยิ่งหนีไม่พ้นแรงเสียดทานจากฝ่าย “ทักษิณ” และเสื้อแดง

เท่ากับไปเขี่ยเชื้อไฟเก่าให้แรงขึ้นมา

ยังไง คสช.ก็ไม่เสียเวลาเดินย้อนรอยทางเก่า ทำปฏิวัติ “เสียของ” ซ้ำ

ที่น่าจับตาจริงๆก็คือท่าทีมั่นอกมั่นใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ได้ยี่หระ หากมีพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคไม่เข้าร่วมในกระบวนการปรองดอง ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะ คสช.ให้ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้ามาพูดจาในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย

หากไม่พูดก็แสดงว่า พรรคการเมืองนั้นไม่ได้มองประเทศไทยอยู่ในสายตาว่า เราจะเดินหน้าประเทศกันอย่างไร จะเดินยุทธศาสตร์ชาติอย่างไร จะพัฒนาแก้ไขเศรษฐกิจให้ทันต่อสถานการณ์โลก

ถ้าเขาไม่พูดเรื่องเหล่านี้ แล้วจะเข้ามาเป็นรัฐบาลกันได้หรือในวันข้างหน้า

เอาอนาคตรัฐบาลวันหน้าเป็นเดิมพันกันเลย

พล.อ.ประยุทธ์ “ล็อกคอ” นักการเมืองคือตัวปัญหาหลักของโจทย์ปรองดอง

ตามเหลี่ยมทหารยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ถือเอาความต้องการของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เป็นบรรทัดฐาน

ขีดเส้น ตีกรอบให้นักการเมืองเดินกลับเข้าลู่เข้าทาง

ใครทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง ต่อรองผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ก็ต้องเสี่ยงกระแสตีกลับ
เรื่องของเรื่อง ความได้เปรียบอยู่กับทหารทุกประตู

ปล่อยให้อดอยากปากแห้งมา 2-3 ปี สถานการณ์ลากมาถึงตรงนี้ คสช.อ่านเกมขาด ตามฟอร์มนักการเมือง ใครไม่อยากเลือกตั้ง โดยเงื่อนไขที่รู้กันดีถ้าปรองดองรอบนี้ล่ม แนวโน้มปล่อยเลือกตั้งไปก็ไม่มี
หลักประกันจะไม่วุ่นวายภายหลัง

เป็นข้ออ้างอย่างชอบธรรมให้ คสช.ลากเกมอำนาจต่อ

นี่คือปัจจัยที่มีน้ำหนักมากสุดที่เอื้อให้ปรองดองเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

ไม่อย่างนั้นระดับ “ขุน” อย่าง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” คงไม่ขยับเดินหมากเอง

นั่นก็เพราะเห็นถึงโอกาสลุ้นเดิมพันสำคัญ

โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตรที่ดูท่าจะตั้งความหวังกับการสร้างผลงานประวัติศาสตร์ทิ้งทวนก่อนลงหลังเสือแบบปลอดภัย สบายเนื้อสบายตัว

จับความเคลื่อนไหว “พี่ใหญ่” ที่รับธงเป็นหัวหอก ประสานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง

เดินสายขอแรงสนับสนุนจากทุกวง เปิดใจพูดทุกเวที

สร้างบรรยากาศรองรับโหมดปรองดองเต็มที่

ล่าสุด พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ระบุว่า พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้ปรับแก้ไขบางส่วนของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง

โดยจะเน้นโครงสร้างให้มีนักวิชาการด้านพลเรือนทั้งสายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รวมทั้งสายอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความปรองดองมากขึ้น

แน่นอน มุมนี้ก็เพื่อให้เกิดความหลากหลาย เพิ่มความเป็นธรรมชาติ

ลดโทนภาพท็อปบูตจี้บังคับให้ปรองดอง.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: