PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พ้นพงหนามสู่วิบากกรรมใหม่

พ้นพงหนามสู่วิบากกรรมใหม่

มาตรฐานใหม่ คำสั่งสลายม็อบ

เป็นอันว่า 2 อดีตนายกฯ 2 อดีตนายตำรวจใหญ่พ้นวิบากกรรม หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำสั่งพิจารณายกฟ้องคดีสลายม็อบกลุ่มพันธมิตร

เหตุเกิดที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551

จำเลยในคดีนี้มีอยู่ 3 คน คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯในสมัยนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯในรัฐบาลเดียวกัน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.

ที่ศาลสั่งยกฟ้องก็เพราะเห็นว่าจำนวนทั้ง 4 คนนั้นปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย มีอำนาจที่จะดำเนินการในฐานะข้าราชการของแผ่นดิน แม้ในฐานะนายกฯ จะยังไม่ได้แถลงนโยบาย แต่ก็มีอำนาจที่ชอบธรรม
การใช้แก๊สนํ้าตาเพื่อให้เหตุการณ์สงบและเป็นการรับคำสั่งมาจากที่ประชุม ครม. ด้วยการมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิตนำไปปฏิบัติ ซึ่ง พล.อ.ชวลิตก็สั่งการไปยัง ผบ.ตร. และ ผบช.น.ตามลำดับชั้น

อีกทั้งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรนั้นไม่ได้เป็นไปด้วยความสงบและไม่มีอาวุธ แต่มีการตรวจทำเนียบรัฐบาลพบว่ามีหนังสติ๊ก ลูกหินและระเบิด

นั่นจึงเป็นความชอบธรรมที่จะต้องมีการป้องกันและปราบปราม

เท่าที่สรุปออกมาก็คงไม่ต่างไปจากประเด็นเหล่านี้

จากนี้ไปหากชุมนุมทางการเมืองก็ต้องใช้มาตรฐานจากคดีนี้ไปปฏิบัติเป็นพื้นฐานและเจ้าหน้าที่รัฐก็สามารถดำเนินการด้วยมาตรการต่างๆได้

ผลการตัดสินใจที่ออกมาทุกฝ่ายจึงต้องยอมรับ ไม่ว่าฝ่ายที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ตามซึ่งก็คงไม่ต่างไปจากคดีอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

เพราะถ้าไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล บ้านเมืองก็จะไร้ขื่อแป

กรณีนี้อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาทและ พล.ต.ท.สุชาติก็จะมีชีวิตอยู่ตามปกติได้ต่อไป เพราะคงไม่ได้คิดเล่นการเมือง

ก็ดีแล้วอย่าได้คิดเข้าไปยุ่งน่าจะดีกว่า แม้ พล.ต.อ.พัชรวาทซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในรัฐบาล คสช.

อย่างที่มีข่าวเรื่องตำรวจออกมาที่ไม่ค่อยจะดีนัก ก็อย่าไปข้องแวะจะดีที่สุด เพราะหากเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา

ลองคิดดูก็แล้วกันว่ามันเป็นอย่างไร เพราะคดีสลายม็อบก็แทบไม่เป็นสุขอยู่แล้ว ดีที่ว่าผลคดีมันออกมาบวกจึงรอดตัวไป

อีก 2 ท่าน คือ พล.อ.ชวลิต อดีตนายกฯที่ผ่านชีวิตทหารด้วยภาพความเป็น “ขงเบ้งกองทัพ” ทำผลงานเพื่อชาติบ้านเมืองไม่น้อย กระโดดลงมาเล่นการเมืองเป็นถึงนายกฯมาแล้ว

อายุก็ปูนนี้สุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าใดนัก พ้นจากคดีนี้แล้ว การคิดอ่านเพื่อวางมือทางการเมืองน่าจะเกิดประโยชน์ทั้งปวง

ไม่ต้องไปห่วงประเทศนี้มากไปหน่อยเลย คนรุ่นลูกรุ่นหลานคงจะนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้

คนนี้สิ...“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” น่าเป็นห่วงที่สุดด้วยความเป็นน้องเขยเจ้าของพรรคเพื่อไทย แม้จะเคยเป็นนายกฯมาแล้ว แต่ชีวิตก็รันทดสิ้นดีคือไม่ได้เข้าทำงานในทำเนียบแม้แต่ครั้งเดียว

หลังหลุดพ้นพงหนามคนที่ดีใจที่สุดน่าจะเป็น “เยาวภาวงศ์สวัสดิ์” ศรีภรรยา เพราะจะทำให้ชีวิตทางการเมืองได้โลดแล่นอีกครั้ง โดยหวังว่าสามีคงมีโอกาสนำทัพเพื่อไทยสู่สนามการเมือง

เพราะเวลานี้เพื่อไทยกำลังหาคนเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ มีทั้งกองเชียร์จากคนในพรรคและที่สำคัญก็คือคนในบ้านเดียวกัน

แต่จำเอาไว้ให้ดีเถอะ...กำลังจะก้าวเข้าไปสู่ “วิบากกรรม” อีกครั้งหนึ่ง.

“สายล่อฟ้า”

ไม่มีความคิดเห็น: