PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

'ซูเปอร์เพาเวอร์' เพื่อการพาหนี

นี่ยังละเมอหา "ยิ่งลักษณ์" กันไม่จบอีกหรือนี่?
ตอนเธออยู่........
ขยะแขยงกันเหมือนมูตร-คูถ ขับไล่ไสส่ง ประหนึ่งเป็นตัวกาลกิณีบ้าน-กาลกิณีเมือง ไม่เว้นแต่ละวัน
ครั้น "หายตัว-หายหัว" จากบ้านจากเมืองไป
แทนจะดีใจที่แผ่นดินสูงขึ้น กลับทำเหมือนโหยหาอาลัย ตื่นเช้าขึ้นมา เจอหน้าใคร ก็เอาแต่ถาม
ยิ่งลักษณ์อยู่ไหน...ใครพายิ่งลักษณ์หนี?
เหมือนทารกยังไม่หย่านม ซึ่งมันได้ประโยชน์อะไร ที่ต้องซักไซ้-เซ้าซี้ เหมือนอยากได้ของเหม็นกลับมาดอมดม
นี่ถ้าผมรู้ใครพาหนี จะขอปิดทองเลย ฐานที่มีจิตสาธารณะ ช่วยนำร่องขยะให้พ้นภาพ ทั้งรก-ทั้งเหม็นเมือง
ใครจะไปฆ่าแกงเธอ ทำไม่ได้แน่ และผมก็ไม่ยอม
สมมุติเอาไปติดคุก..........
ขัง ๘ ไม่แตกหรือ?
ตื่นเช้าขึ้นมา เธอเรียกหาคนพอกหน้ากลบหลุมอุกกาบาตให้ ในคุกมีบริการหรือ?
และวันๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่เป็นอันได้ทำอย่างอื่นแน่ แค่คอยหรี่เสียงตะโกนข้ามกำแพง ยิ่งลักษณ์สู้..สู้
กับจัดแถว-แจกบัตรคิวให้ "ปูแฟนคลับ" เข้ามอบกุหลาบแดง ก็หัวหมุน-ตาลายแล้ว
ฉะนั้น เธอจะหนีนอกหรือหลบใน ก็ปล่อยเธอไปตามสบายเถอะ คอยลุ้นวันที่ ๒๗ กันยาตามศาลนัดอีกที ค่อยว่ากัน
ตอนนี้ ถือว่าอยู่ในช่วง "ทดเวลาหนี"
เธอจะหนีชั่วคราว หรือหนีลับชั่วกัป-ชั่วกัลป์ การหนีของเธอ "เป็นคุณ" ประเทศสถานเดียว
ส่วนเรื่องคนพาหนีน่ะ ..........
ไม่ต้องไปพร่ำถามหาให้มากความหรอก เพราะเรื่องลักษณะนี้เป็นแนวทางสืบต่อกันมาแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ยันอนาคต ของคนระดับนายกฯ
ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์เป็นคนแรก เพียงแต่เงื่อนไข-เหตุผลการหนีของแต่ละอดีตนายกฯ มันต่างกันไปเท่านั้น
"พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี" ผู้ที่ทักษิณซื้อใจได้ด้วยรองเท้ากอล์ฟคู่เดียว ยังพูดเลย........
"ท่านยิ่งลักษณ์นายผม อยากหนีทำไมไม่บอก ผมจะพาหนีเอง"
เพราะรู้ๆ กันอยู่
การหนีออกนอกประเทศนั้น ถ้าไม่มีระดับซูเปอร์เพาเวอร์-ขี้โล้เพาเวอร์ เป็นคนนำ-คนพาละก็
หนีไม่ได้หรอก!
เรื่องยิ่งลักษณ์หนี คนที่ยืดอกพูดด้วยความรับผิดชอบแบบชายชาติทหารน่านับถือ ผมยกให้
"พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท" ผบ.ทบ.
นับแต่วันแรก ถึงนาทีนี้ ท่านไม่ปฏิเสธถึงความบกพร่อง และไม่ปฏิเสธประเด็น คนมีเพาเวอร์อยู่เบื้องหลังการหนี!
ประเทศไทย นับจาก ๒๔๗๕ ถึงปัจจุบัน มีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ๒๙ คน
ใน ๒๙ นายกฯ มีถึง ๘ นายกฯ ถูกปฏิวัติ-รัฐประหาร แต่จับใครไม่ได้ซักคน
ซูเปอร์เพาเวอร์บ้าง ขี้โล้เพาเวอร์บ้าง พาหนีออกนอกประเทศไปทุกคน!?
ยกเว้นคนเดียวคือ "นายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ"
ถูก "พลเอกสุนทร คงสมพงษ์" ผบ.สูงสุด นำคณะ รสช.ยึดอำนาจเมื่อ ๒๓ ก.พ.๓๔
จับพลเอกชาติชาย คาเครื่องบิน C 130...........
ขณะพา "พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก" ไปเชียงใหม่ เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง รมช.กลาโหม
คุมตัวไว้แค่ ๑๕ วัน ก่อนปล่อยเป็นอิสระ
แต่ด้วยสปิริตการเมือง ท่านเดินทางไปอยู่อังกฤษเงียบๆ พักใหญ่ ด้วยไม่ต้องการอยู่ เพราะเกรงตัวเองจะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐบาลใหม่
เมื่อทุกอย่างเข้าที่ ก็กลับเข้ามาเงียบๆ แบบไม่เป็นคลื่นกระแทกรัฐบาลใหม่!
กรณียิ่งลักษณ์ ไม่ต้องห่วงจะเป็นความลับดำมืดตลอดไป ว่าใครพาหนี
ถึงจังหวะ-ถึงเวลา "ชาตินี้-ชาติไหน" ระบอบทักษิณคืนอำนาจ พวกพาหนี จะกรูกันออกมาชูทั้งหน้า-ชูทั้งคอ
แย่งรับเหรียญ "Pedigree"!
มาย้อนเก่า-เล่าอดีต เป็นการศึกษาวัฒนธรรมการเมืองไทย ว่าด้วยเรื่อง "หนีคุก-หนีภัย" ของ ๘ อดีตนายกฯ ดับกระหาย "ยิ่งลักษณ์อยู่ไหน" กันดีกว่า
-"พระยามโนปกรณ์นิติธาดา"
ถูกพวกเดียวกัน คือ "พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา" หัวหน้าคณะราษฎร ยึดอำนาจ เมื่อ ๒๑ มิ.ย.๗๖
ก็ไม่จับไว้-ไม่ฆ่าแกง .........
ใส่รถไฟเนรเทศไปอยู่เกาะปีนัง และอยู่ที่นั่นจนตาย ทุกวันนี้ร่างของ "นายกฯ ประชาธิปไตย" คนแรกของไทย
ยังฝังอยู่ในสุสานที่ปีนัง!
-"ปรีดี พนมยงค์”
ถูกกดดัน จากกรณีสวรรคต ร.๘ ลาออก ให้ "พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์" ขึ้นเป็นนายกฯ แทน
๘ พ.ย.๙๐ "พลโทผิน ชุณหะวัณ" ทำรัฐประหาร ปรีดีหนีการจับกุม มีคนพาหนีออกนอกประเทศ ลี้ภัยอยู่สิงคโปร์ ๒ ปี ก่อนไปอยู่จีน กว่า ๒๐ ปี
พยายามกลับเข้ามายึดอำนาจคืน แต่ไม่สำเร็จ สุดท้าย ต้องไปอยู่ฝรั่งเศส จวบวาระสุดท้ายชีวิต "รัฐบุรุษอาวุโส"
-พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
จากรัฐประหาร ๘ พ.ย.๙๐ ขณะกำลังทหารบุกไปจับตัวที่บ้าน แต่มีการข่าวบอกให้รู้ตัว หนีไปได้ฉิวเฉียด
ก็มีคนพาหนีไปอยู่ฮ่องกง แต่ได้กลับมาตายในมาตุภูมิหลังจากนั้น
-"จอมพล ป. พิบูลสงคราม"
"จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ขุนพลข้างกาย ในฐานะ ผบ.ทบ.ด้วยประชาชนเรียกร้อง "ยึดอำนาจ" เมื่อ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐
ลูกน้องพาจอมพล ป.หนีการไล่ล่าเพื่อจับตัว จากกรุงเทพฯ ไปทางตราด เข้าเขมรทางเกาะกง
ก่อนไปลี้ภัยทางการเมืองต่อที่ญี่ปุ่น และจบชีวิตที่นั่น
-จอมพลถนอม กิตติขจร
จากเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ ต้องลาออกจากนายกฯ และไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง หลบไปอยู่บอสตัน สหรัฐฯ
ก็อยู่ไม่ได้ คนไทยที่นั่นต่อต้าน ต้องไปปักหลักที่สิงคโปร์ แล้ว ๖ ตุลา ๑๙ อันเป็น "๑๔ ตุลา ภาค ๒" ก็เกิดขึ้น
เมื่อบวชเป็นสามเณรกลับเข้ามาไทย!
คนต่อมาคือ "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ" ก็ตามที่เล่าไปแล้วข้างต้น
-ทักษิณ ชินวัตร
"พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน" ผบ.ทบ.ยึดอำนาจ ขณะตัวไปประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก เมื่อ ๑๙ กันยา ๔๙
เป็นอดีตนายกฯ คนแรก ที่อ้างคำว่า "ลี้ภัยทางการเมือง" เพื่อขออยู่ประเทศไหนไม่ได้
เนื่องจากไม่มีภัยทางการเมืองอะไร ที่ทำให้ทักษิณจะกลับไม่ได้ อีกทั้งไม่มีใครห้ามมิให้ทักษิณกลับ
เหตุที่ไม่กลับ เพราะ "ทักษิณไม่กลับเอง"!
ทักษิณไม่ต้องคดีทางการเมืองใดๆ..............
หากแต่ทักษิณ "ต้องคดีอาญา" ข้อหาทุจริต-คอร์รัปชัน ข้อหาใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ ข้อหาหนีคดี-หนีโทษคุก หลายคดี
นั่นคือ ทักษิณเป็นทั้งนักโทษหนีคุก เป็นทั้งผู้ต้องหาคดีอาญา เป็นทั้งผู้ต้องหาหนีประกัน จึงไม่ยอมกลับเข้ามา
สิ่งยืนยันว่าทักษิณกลับได้ แต่ไม่กลับเอง ก็ตอนปี ๕๑ เมื่อนอมินีอำนาจเป็นรัฐบาล ก็กลับเข้ามากราบแผ่นดิน
แต่พอรู้ว่า "คุก" แน่........
ก็อ้างศาลรับเชิญโอลิมปิกที่จีน แล้วฉวยโอกาสพาเมียหนีเตลิดแต่บัดนั้น ถึงบัดนี้!
รายนี้ หนีด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่มีซูเปอร์ หรือขี้โล้เพาเวอร์ "นำทางหนี" เหมือนรายอื่นๆ ในจำนวน ๘ ราย
-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นรายที่ ๘ บทบาทนายกฯ ของเธอห่วยมาก แต่บทบาท "หลอกลูกน้องไปศาล" เพื่อให้ตัวเองหนี "ถึงบท-ถึงบาท" เยี่ยมมาก
มีการดึงเอาพระมาเข้าฉากซะด้วย!
แต่จริงๆ แล้ว การหนีของยิ่งลักษณ์ คนละเงื่อนไขกับอดีตนายกฯ อื่นๆ ยกเว้น "ทักษิณ" คนเดียว หนีด้วยเงื่อนไขเดียวกัน
คืออดีตนายกฯ อื่น หนีในฐานะ "นักโทษการเมือง" ขอลี้ภัยได้
แต่ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ไม่ใช่นักโทษการเมือง หากแต่เป็นจำเลย-ผู้ต้องหา-นักโทษ "หนีคดีอาญา"
ที่เหมือนกัน ก็ตรงมีซูเปอร์เพาเวอร์ พาหนีเท่านั้น!
"นักโทษการเมือง" หนีแล้ว คลื่นลมสงบ อยากกลับ ก็กลับสบาย ไม่มีข้อหาทางคดีอาญาให้ต้อง "นับอายุความ" ตามกฎหมายใหม่
อย่างยิ่งลักษณ์-ทักษิณ นั่นตะหาก เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา
เมื่ออยากหนี ก็ "ปล่อยโซ่" ไปเลย...........
ให้ไปตายที่อื่น ถ้าอยากกลับมาตายรัง ก็ต้องมาเข้ากระบวนการศาล นับ ๑ "อายุความ" วันนั้น นั่นแหละ.

ไม่มีความคิดเห็น: