PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

‘เร่ง’ ที่บ่ายเบี่ยงไม่ได้

‘เร่ง’ ที่บ่ายเบี่ยงไม่ได้

เร่งจังหวะงาน ไปตามสเต็ป

ปรับสปีดรอบล่าสุด บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ชี้แจงถึงแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินระดับภาค

อยากให้ทุกอย่างเดินหน้าอย่างรวดเร็วกว่าเดิมจากที่วางแผนไว้

เพิ่มอัตราเร่งกลไกอำนาจรัฐ

อันนี้ก็มองได้จากท่าทีผู้นำ หลังประกาศโรดแม็ปชัด เดือน มิ.ย.2561 จะประกาศวันเลือกตั้งและดีเดย์หย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งราว พ.ย.2561 ฉะนั้นเวลานี้งานการที่คั่งค้างถึงเวลาต้องเร่งเครื่องสะสาง

ปั่นเต็มที่ในโค้งสุดท้ายอีกราว 1 ปี ก่อนคืนอำนาจ

ขณะที่แม่น้ำสายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำกฎหมาย ทั้ง สนช. และ กรธ. ทีแรกก็ประสานเสียงตอบรับ ไร้ปัญหาในการเร่งปั๊มกฎหมายลูกตามเป้าหมาย ตามสัญญาณผู้นำ

แต่ไม่นานก็ชักยึกยัก ปูทาง “ขยับเวลา” เอาไว้ล่วงหน้า

รวมทั้งหลังรับรู้ “สัญญาณดี” กันได้ไม่กี่วัน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม “อำนาจคู่ คสช.” ตอบคำถามถึงกรณีมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายลูก
“หากช้าก็ต้องช้า ก็ต้องทำตามนั้น”

โรดแม็ป “แกว่ง” อีกแล้ว

ในสถานการณ์ที่นักการเมืองส่วนใหญ่ก็ได้แค่เล่นไปตามจังหวะสัญญาณ โรดแม็ปชัดก็ต้องร้องขอให้ คสช.ปลดล็อกไฟเขียวให้ทำกิจกรรมการเมือง ทันเวลาตามเงื่อนกฎหมาย

ส่วนคิวยึกยักโรดแม็ป ด้วยสถานการณ์ห้วงงานสำคัญในบ้านเมือง นักการเมืองส่วนใหญ่รู้ทิศรู้ทาง
สะกดคำว่า “กาละ-เทศะ” เป็น

เอาเป็นว่า คิวโรดแม็ปคงต้องติดตามตอนต่อไป โดยแต่ละฝ่ายน่าจะจับจ้องไปที่ กรธ. และ สนช. ในกระบวนการปั๊มกฎหมายลูกเป็นช็อตแรก

รอดูไต๋อ่านทาง เลื่อน–ไม่เลื่อน

แต่ที่ดูจะขับเคลื่อนไปตามสเต็ปอีกคิว ก็น่าจะเป็นโปรแกรมงานตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน รวมทั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ปฏิรูปตำรวจ) และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา

เวลานี้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ มีเงื่อน เวลาต้องส่งแผนปฏิรูปต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ

ปลายปี 2560 ทยอยเปิดหน้างาน โชว์พิมพ์เขียวแผนปฏิรูปเบื้องต้นกันแล้ว

โดยหลายคณะก็เห็นทิศทางการยกเครื่องไปสู่ความเปลี่ยนแปลง แต่หลายคณะก็ยังอืด และบางคณะก็ยังกั๊กๆ ไม่เห็นทิศทางของการปรับไปสู่สิ่งใหม่

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ย.ป.ด้านต่างๆ ก็ถึงโปรแกรมท้ายๆสรุปงาน โดยเฉพาะงานสร้างความปรองดอง

รวมทั้งเร่งเครื่องคณะกรรมการชุดใหม่อีก 3 คณะ ทั้งคณะขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 คณะว่าด้วยปรัชญาศาสตร์พระราชาไปสู่ความยั่งยืน และคณะสานพลังประชารัฐ

หลายคณะนายกฯจะกำกับเอง รวมทั้งคิวใหญ่ปฏิรูประบบราชการ

เรียกได้ว่า ถึงแม้โปรแกรมเลือกตั้งอาจขยับปรับเปลี่ยนกัน ได้ตามเงื่อนไขกฎหมายและสัญญาณ
สถานการณ์บ้านเมือง แต่สำหรับปฏิทินสำคัญ งานแก้โจทย์ใหญ่ของประเทศสารพัดเรื่อง

“บิ๊กตู่” ถือเป็นภารกิจภาคบังคับ เร่งมือเพื่อไม่ให้ถูกตราหน้าว่ารัฐประหารแล้วทำ “เสียของ”

หากถึงเวลา “ปล่อยมือ” และคิดคัมแบ็กอีกคำรบ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: