
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า สัปดาห์นี้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเย็นลงอีก 2–4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดจะอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียสโดยประมาณ
ท่านที่อยากสัมผัสลมหนาวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าเมื่อลมหนาวแผ่พังพานปกคลุมตอนบนของประเทศไทย จะทำให้ภาคเหนือมีฝนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์
ส่วนภาคอีสานยังมีฝนประปราย 30 เปอร์เซ็นต์
ส่วนกรุงเทพมหานคร สัปดาห์นี้อุณหภูมิจะลดลงอีก 1–3 องศาเซลเซียส
เย็นสบายๆต้อนรับเทศกาลลอยกระทง
ยกเว้น ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน จะมีฝนฟ้าคะนองตกกระจายต่อไปอีกหลายวัน
“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าปีนี้เมืองไทยจะหนาวยาวๆไปจนถึงสิ้นปี
และอาจหนาวยาวๆไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าโน่นเลย
เพราะปีไหนน้ำเยอะ ปีนั้นจะหนาวนาน
ปีนี้ฝนตกสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ภาคเหนือภาคอีสานภาคกลางยืดเยื้อมากว่า 2 เดือน
ยังโชคดีที่ปีนี้เขื่อนใหญ่ๆ สามารถรองรับปริมาณน้ำส่วนเกินเพิ่มได้เป็นกอบเป็นกำ
ล่าสุด เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำเพียง 78 เปอร์เซ็นต์ ยังรับน้ำเพิ่มได้อีก 22 เปอร์เซ็นต์
เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนใหญ่อันดับ 2 มีปริมาณน้ำในอ่าง 88 เปอร์เซ็นต์ ยังสามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกก้อนโต
แต่สาเหตุที่เกิดนํ้าท่วม เป็นเพราะร่องฝนปีนี้เลื่อนลงไปตกใต้เขื่อน
ทำให้มวลนํ้าก้อนใหญ่ไหลไปกองอยู่ที่ภาคกลางตอนบน
เพราะฝนตกใต้เขื่อนเยอะจึงทำให้นํ้าท่วมระเบิดเถิดเทิง
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” เห็นว่ารัฐบาล คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดการปัญหานํ้าท่วมได้ดีพอสมควร
เช่น...การเตรียมขุดลอกแม่นํ้าลำคลองหนองบึง
ทำสงครามกวาดล้างผักตบชวา ซึ่งเป็นตัวแสบที่ทำให้การระบายนํ้าไม่สะดวกโยธิน
และการที่รัฐบาลสั่งผันนํ้าส่วนเกิน 1,300 ล้าน ลบ.เมตร เข้าไปพักไว้ในแก้มลิงยักษ์ 12 แห่งชั่วคราว
ช่วยบรรเทาผลกระทบจากนํ้าท่วมเห็นผลทันตา
ส่วนการที่รัฐบาลระบุว่าปริมาณฝนปีนี้ใกล้เคียงกับปริมาณฝนปี 2554 แต่เพราะรัฐบาลวางแผนจัดการปัญหานํ้าท่วมได้ดี ทำให้ปีนี้ไม่เกิดมหาวิกฤตินํ้าท่วมวินาศสันตะโรซํ้ารอยเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่าปริมาณฝนปีนี้น้อยกว่าปี 2554 ซึ่งมีปริมาณฝนสะสมสูงสุดในรอบ 30 ปี
ปี 2554 มีปริมาณนํ้าท่วมต้องระบาย 1.6 หมื่นล้าน ลบ.เมตร
ปีนี้มีปริมาณนํ้าท่วมต้องระบาย 3 พันล้าน ลบ.เมตร
ยังห่างกันเยอะนะคุณโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น