PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สลายการชุมนุมม็อบถ่านหินเทพาสงขลา

จากเพจ I LAW 
//
27 พฤศจิกายน 2560 ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายกิจกรรมเดินเท้าของเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน และจับกุมแกนนำไปอย่างน้อย 16 คน หลังเดินขบวนจากอ.เทพาตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เพื่อเตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อการประชุม ครม. สัญจร
.
จากการที่คณะรัฐมนตรี มีกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมืองสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ชาวเทพาและเครือข่ายจึงจัดกิจกรรมเดินเท้าจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ไปหานายกรัฐมนตรีในวันประชุม เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะถึงความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่อ.เทพา จ.สงขลา และยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีถึงเหตุผลของชาวบ้านที่ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ในกิจกรรมครั้งนี้ชาวบ้านเทพาเริ่มเดินออกจากชุมชนบางหลิง พื้นที่ใจกลางเขตก่อสร้างที่จะถูกบังคับโยกย้าย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2560 โดยมีเป้าหมายไปให้ถึงสถานที่ประชุม ครม.สัญจร ในวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2560

โดยก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้แจ้งการชุมนุม ต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอเทพาแล้ว แต่ไม่ได้ยื่นหนังสือล่วงหน้ามากกว่า 24 ชั่วโมง ตามที่พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ กำหนดไว้ ตำรวจเห็นว่า ระหว่างการพิจารณาเรื่องการชุมนุม ชาวบ้านก็ยังเดินขบวนไปเรื่อยๆ ถือเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงสั่งให้เลิกการชุมนุม ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 แต่ชาวบ้านก็ยืนยันจะเดินหน้ากิจกรรมนี้ต่อไป

เหตุการณ์ความวุ่นวายในวันนี้ เกิดขึ้นเมื่อขบวนชาวบ้านเดินเท้ามาถึง อ.เมือง จ.สงขลา ขณะเดินผ่านบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ทหารได้เข้ามาห้ามการเดินขบวนต่อ แต่ทางชาวบ้านยืนยันว่า มีนัดหมายที่จะมาพักกินข้าวบริเวณหน้าโรงพยาบาลจิตเวช และได้ยืนยันที่จะเดินต่อมาเพื่อจะพักกินข้าว

เวลาประมาณ 16.20 น ขณะที่ชาวบ้านกำลังพักกินข้าว มีกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่อยู่จำนวนมาก และมีทหารบุกเข้ามาเพื่อขอเจรจากับแกนนำ ระหว่างนั้นชาวบ้านเห็นว่า การเจรจาไม่ได้ดำเนินไปได้ด้วยดี และทหารมีแนวโน้มที่จะสั่งสลายการเดินขบวน ชาวบ้านจึงวิ่งออกมาทางพื้นที่ริมทะเลใกล้ชุมชนเก้าเส้ง เพื่อให้พ้นวงล้อมของเจ้าหน้าที่ ระหว่างนั้นทหารจึงมีคำสั่งให้จับกุมทุกคนที่ถือธงสีเขียว หรือสัญลักษณ์ของการเดินครั้งนี้

มีรายงานว่า ตำรวจใช้กำลังเข้าจับกุม มีการทุบตี ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหลายคน และมีผู้ถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจไปยัง สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา อย่างน้อย 16 คน
..................................
จดหมายที่ชาวบ้านเตรียมไว้จะนำไปยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันรุ่งขึ้น แต่สุดท้ายไปไม่ถึงมือ เพราะถูกตำรวจเข้าสลายและถูกจับกุมไปเสียก่อน มีใจความดังนี้

เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเพราะมีความไม่ชอบธรรมนานับประการ
เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

สืบเนื่องจากการที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้จะมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดปัตตานีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรที่ มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมืองสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นี้ ชาวเทพาและเครือข่าย มีมติเดินเท้าจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะถึงความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีถึงความไม่เป็นธรรม ความฉ้อฉล และผลกระทบ ที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพากระทำต่อชุมชนคนเทพาและรวมถึงคนสงขลาและคนปัตตานี
ความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านเทพาโดนกระทำจากอำนาจรัฐและอำนาจทุนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ของผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่สำคัญได้แก่
- การมีส่วนร่วมที่เป็นเพียงพิธีกรรมทั้งเวทีรับฟังความคิดเห็น ค.1, ค.2 และ ค.3 โดยที่ไม่มีการพูดคุยหรือรับฟังถกแถลงสองทางกับกลุ่มคัดค้านทั้งที่เป็นชาวบ้านและนักวิชาการเลยแม้แต่ครั้งเดียว
- การศึกษา EHIA มีความบกพร่อง ไม่ครอบคลุม โดยชาวบ้านเชื่อว่ามีการลักไก่มากมายเพราะไม่เห็นลงมาเก็บข้อมูลเลยแต่กลับมีข้อมูลรายงาน อีกทั้งมีข้อมูลที่เป็นเท็จไม่ตรงข้อเท็จจริงในพื้นที่จำนวนมาก
- กระบวนการอนุมัติโครงการมีการแยกส่วนการศึกษา EHIA โดยทราบว่าจะมีการชงให้ ครม.อนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไปก่อน โดยไม่รอ EHIA ท่าเรือขนถ่านหินซึ่งไม่ผ่านและยังต้องปรับแก้อีกมาก
- พื้นที่ทำโครงการเกือบ 3,000 นั้น ต้องมีการบังคับโยกย้ายคนบ้านบางหลิงและคลองประดู่ออกจากพื้นที่แผ่นดินเกิดกว่า 180 หลังคาเรือน ร่วม 1,000 คน "แล้วจะให้ชาวบ้านไปอยู่ที่ไหน" นับเป็นการบังคับโยกย้ายครั้งใหญ่ในยุคนี้ ซึ่งขัดกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน
- คนที่จำเป็นต้องอยู่อาศัยรอบโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างจำใจในรัศมี 1 กิโลเมตร มีมากถึง 4,000 คน และรัศมี 5 กิโลเมตรมีร่วม 20,000 คน แสดงถึงการเลือกที่ตั้งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
กระแสของทั้งโลกกำลังทยอยยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะทำให้โลกร้อนและก่อมลพิษ อีกทั้งยังทำลายวิถีชุมชนเทพาที่สุขสงบ ประเทศไทยมีทางเลือกที่จะไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหลายทางเลือก จึงขอเพียงให้รัฐบาลมีนโยบายที่สอดคล้องกับประชาคมโลกตามที่รัฐบาลได้ไปลงนามไว้
ทางเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงขอให้ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี รับฟังเสียงประชาชน “โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะสร้าง” จึงขอให้ทางรัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา” และชี้นำการสร้างสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
......................................
ดูรายละเอียดกิจกรรมการเดินขบวน ได้ที่ https://web.facebook.com/stopcoalsongkhla/posts/1489493167831438
ดูคลิปวีดีโอส่วนหนึ่งของการเข้าจับกุมผู้เดินขบวน ได้ที่https://web.facebook.com/stopcoalsongkhla/

ไม่มีความคิดเห็น: