ตามความเข้าใจของผมเจตนาของการจัดครม.สัญจรคือการลงพื้นที่ของรัฐบาลที่จะลงไปรับรู้ปัญหาของในแต่ละภูมิภาคเพื่อแสดงความใกล้ชิด รับรู้ปัญหาและหาทางแก้ไขรวมถึงฟังข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือฟังแนวทางในการแก้ไขหรือพัฒนา
ที่ผ่านๆมาเราจะพบว่าคณะรัฐมนตรีจะเปิดให้ตัวแทนภาคธุรกิจหอการค้าได้เข้านำเสนอปัญหาและเสนอโครงการต่างๆเพื่อขอให้รัฐบาลช่วยเหลือโน่นนี่นั่นอย่างใกล้ชิดในทุกๆที่ๆ มีครม.ไปสัญจร แต่ภาคประชาชนมักถูกกีดกันไม่ให้เข้าใกล้ ไม่มีโอกาสได้เสนอสิ่งที่เขาเห็นปัญหา ทำยังกับว่าประเทศนี้มีเฉพาะภาคธุรกิจหอการค้าเท่านั้นที่ค้ำจุนให้สังคมนี้อยู่มาได้
ปรากฏการณ์ครม.สัญจรที่สงขลาครั้งนี้ก็ยังออกแบบเดิมๆ ยังไม่สายเกินไปที่ท่านนายกรัฐมนตรีที่จะได้แสดงความจริงใจที่จะรับรู้ปัญหาจากภาคส่วนอื่นๆบ้างไม่ฟังเฉพาะที่หน่วยราชการหรือภาคธุรกิจจัดให้เท่านั้น
ท่านให้เวลารับฟังภาคธุรกิจเอกชนเป็นชั่วโมงๆ ถ้าท่านสละเวลาสักเสี้ยวหนึ่งลงมารับฟังปัญหาของพี่น้องโดยเฉพาะพี่น้องที่กำลังทุกข์ใจจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาที่เขาจะต้องสูญเสียชุมชนพลัดพรากจากบ้านเรือนที่จะถูกโยกย้าย สูญเสียพื้นที่ทำกิน มลพิษที่จะเกิดขึ้นฯลฯ ที่ลงทุนเดินกรำแดดกรำฝนมาสามวันสามคืนเพื่อขอให้ได้พูดให้ท่านได้ฟังจากปากของพวกเขาบ้าง..และผมเชื่อว่านั่นคือหัวใจที่สำคัญของการจัดครม.สัญจรครับท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น