PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หงายไพ่เข้าทาง ‘ลุงตู่’

หงายไพ่เข้าทาง ‘ลุงตู่’


“ลุงตู่ ภาค 5” ตอน “จอมยุทธ์กวงถล่มฐานเลือกตั้ง”
ยุทธการยกเครื่องปรับ ครม.รอบล่าสุด นับว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจทิ้งไพ่ใบสำคัญ และก็เห็นผลแบบทันทีทันใด
กับการทำให้เกิดปรากฏการณ์ “หงายไพ่เล่น” กันทั้งวง
ตามอาการที่มวยหลักของพรรคเพื่อไทยระดับนายจาตุรนต์ ฉายแสง ออกมาโยนทุ่น ประเด็นการจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลเพื่อสกัดนายกรัฐมนตรีคนนอก สอดรับกับมวยเก๋าของค่ายประชาธิปัตย์อย่างนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่แบะท่ารับมุกยุทธการเซ็ตซีโร่ คสช.
ยี่ห้อเพื่อไทยกับค่ายประชาธิปัตย์ผวากอดคอกันอัตโนมัติ
เป้าหมายร่วมในการสกัดเส้นทางของ “นายกฯลุงตู่” ที่เล่นแต้มสำคัญ เผยไต๋ให้เห็นยุทธศาสตร์ในการเดินหน้าไปต่อ ด้วยการปรับ ครม.เปิดพื้นที่ให้ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ เดินหน้าปั่นแต้ม ชิงกระแสคะแนนนิยม
สะสมแต้มเป็นฐานรองรับ พล.อ.ประยุทธ์คุมเกมยาวอำนาจช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศ
และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ในหมู่นักเลือกตั้งอาชีพก็รู้มือกันดี กับประสบการณ์ครั้งอดีตที่การันตี “สมคิด” เคยทำให้ยี่ห้อ “ทักษิณ” ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาเมื่ออดีตยุคไทยรักไทย
“จอมยุทธ์กวง” ไม่ได้ “กลวง” แบบที่คนเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์พยายามเบิ้ลบลัฟตามเกม
กับตัวเลขที่เป็นรูปธรรมการันตี ผลการออกแรงลากเศรษฐกิจที่ติดลบจากวิกฤติการเมือง แถมบรรยากาศยังอยู่ในห้วงรัฐบาลทหาร แต่ดันจีดีพีโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ 4.3 เปอร์เซ็นต์
ยิ่งมองกันในทางยาวๆ ยังเป็นการวางแผนอนาคตประเทศอย่างเป็นระบบ ทั้งเมกะโปรเจกต์รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ นโยบายเอสเอ็มอี ดิจิทัลไทยแลนด์ ไทยแลนด์ 4.0 ไทยแลนด์สตาร์ต อัพ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อินเตอร์เน็ตประชารัฐ สวัสดิการบัตรคนจน อี เพย์เมนต์ ฯลฯ
นี่คือสิ่งที่สะท้อนว่า “สมคิด” พาประเทศมาถูกทาง
เรื่องที่คนมองอย่างเป็นกลางทางการเมืองก็เริ่มยอมรับ แม้แต่คนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็รู้อยู่เต็มอกว่า นี่คือยุทธศาสตร์ในการวางฐานให้ประเทศไทยเข้าสู่โลกอนาคต
ถ้าเป็นรัฐบาลทีมงาน “นายใหญ่” ก็ต้องทำเหมือนกัน
และจุดที่จะพลิกเดิมพันก็คือยุทธศาสตร์เป้าหมายที่ “ลุงตู่” กับ “สมคิด” ตั้งแท่นให้เห็นจากคิวปรับ ครม.รอบนี้ มุ่งไปที่การฟื้นเศรษฐกิจฐานราก อัดฉีดแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนคนมีรายได้น้อย
เคลียร์จุดด้อยที่ถูกนักเลือกตั้งอาชีพรุมถล่มตีกินมาตลอด
“สมคิด” ส่งสัญญาณล่วงหน้าแล้ว สารพัดมาตรการ งบประมาณนับแสนล้านจะถูกส่งลงไปแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านร้านตลาด กู้สภาวะฝืดเคือง ไม่นับแต้มสำคัญ เรื่องที่จะมีการใช้งบประมาณองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นนับแสนล้านบาทเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเศรษฐกิจในท้องถิ่น
“จอมยุทธ์กวง” จะทำให้ประชาชนฐานรากรู้สึกว่า รัฐบาล คสช. ก็กินได้ ไม่ใช่แค่นักการเมือง
หนีไม่พ้นสั่นสะเทือนฐานคะแนนพรรคเพื่อไทยกับค่ายประชาธิปัตย์
นี่คือเงื่อนไขสถานการณ์ที่บีบให้คนการเมืองของเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์นั่งเฉยไม่ได้ ถ้าปล่อยไปตามยุทธศาสตร์แบบนี้มีแต่รอวันโดนดองจนเกลือขึ้น
ต้องรีบสกัด “ลุงตู่” เจาะยาง “สมคิด” กันทุกวิถีทาง
แต่ก็อีกนั่นแหละ คิดได้ ทำยาก การจูบปากระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยก็แค่เพ้อฝัน
เพราะยังไม่ทันไร ก็มีเสียงจากฝั่งประชาธิปัตย์ สไตล์กัดจิกแบบนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค ออกตัวเลยว่า การร่วมงานกับเพื่อไทยเป็นไปได้ยาก ถ้ายังคบกับพวกเผาบ้านเผาเมือง ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็แสบเหมือนกัน ยืนยันไม่เอาด้วยกับพรรคที่จ้องรับใช้เผด็จการ
เกมเกี้ยเซียะเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์สกัด “ลุงตู่” เป็นหมันตั้งแต่ยังไม่เริ่มปฏิสนธิ
ที่แน่ๆมันก็ตอกย้ำภาพการเมืองพันธุ์เก่า มุ่งชิงเหลี่ยมอำนาจ คิดแต่เอาการเมืองนำชาติมากไป จนสร้างความเสียหาย ลากประเทศเข้าสู่ภาวะรัฐเกือบล่มสลาย
ทำให้ประชาชนเข็ดหลาบพฤติกรรมมาแล้ว
แนวโน้มมันจึงยิ่งเพิ่มแรงส่งไหลไปทางฝั่ง “ลุงตู่” มากขึ้นอีก.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: