PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

‘พี่ตูน’ ถึงแล้ว ‘ลุงตู่’ ยัง!

‘พี่ตูน’ ถึงแล้ว ‘ลุงตู่’ ยัง!


ปรบมือดังๆให้กับคนชื่อ “อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม”

ชื่อที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ในฐานะคนไทยผู้มี “จิตอาสา” อย่างแรงกล้า ทุ่มเทตัวเองเพื่อประโยชน์สาธารณะ วิ่งด้วยสองเท้า นำโครงการ “ก้าวคนละก้าว” จากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ถึงเส้นชัยอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อระดมทุนบริจาคช่วย 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ระยะเวลา 55 วัน

ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งในมุมของเงินบริจาคที่เกินเป้าที่ตั้งไว้ เหนืออื่นใดคือปรากฏการณ์ทางกระแสคนไทยทั่วประเทศทุกเพศทุกวัย ที่มีอารมณ์ร่วมกับกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ กระตุ้นแนวคิดในการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่นับปลูกฝังการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

“ตูน บอดี้สแลม” รับตำแหน่งบุคคลแห่งปี พ.ศ.2560 ไปอย่างเต็มภาคภูมิ

เสียงเอกฉันท์ท่วมท้นโพลทุกสำนัก

“ตูน บอดี้สแลม” ถึงเป้าหมายปลายทางอย่างสวยสดงดงาม

แต่ที่ยังต้องออกแรงลากกันอีกอึดใจใหญ่ ก็คือทีมงานรัฐบาล คสช.ที่นำโดย “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ขอใช้ตั๋วอำนาจพิเศษจากประชาชนคนไทย เพื่อนำประเทศไปสู่เป้าหมาย

ปลายทางการปฏิรูปยกเครื่องใหญ่ประเทศ

ถึงตรงนี้ผ่านปีที่ 3 ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ท้ายเทอมรัฐบาล สถานการณ์ก็ยังมองเห็นเส้นชัยแค่รางๆ

ล่าสุดผู้นำรัฐบาล คสช.นำคณะเดินสายลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ตรวจราชการ ติดตามความคืบหน้าโครงการรัฐบาล พร้อมจัด “ครม.สัญจร” ที่จังหวัดสุโขทัย

จัดหนัก จัดเต็ม ซื้อใจชาวบ้าน ทั้งโครงการอัดฉีดงบประมาณแก้ปัญหายากจน แจกที่ดินทำกิน กดปุ่มเมกะโปรเจกต์รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก พัฒนาคมนาคมภาคเหนือมูลค่ากว่า 6 แสนล้าน

กู้สถานการณ์ปัญหาปากท้องเฉพาะหน้า และวางโครงสร้างพื้นฐานประเทศระยะยาว

เรื่องของเรื่อง ต้องเน้นเศรษฐกิจเพื่อประคองรัฐบาลไว้ก่อน

โดยเฉพาะเงื่อนไขสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ ทีมงาน “นายกฯลุงตู่” ต้องรีบกลบปาก “แผล” ที่กำลังถูกบดขยี้อย่างหนัก

ตามปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดจากยุทธการ “เซตฉาก” ถล่ม “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม อย่างเอาเป็นเอาตาย

ประเภทที่โผล่มาเป็นร้าน “เล้งนาฬิกา” ภาพของนาฬิกาหรูเรือนที่ 7 เรือนที่ 8 ถูกขุดออกมาแฉรายวัน จากหัวเชื้อที่เริ่มต้นจากแหวนเพชร และนาฬิการิชาร์ด มิลล์

“ลุงป้อม” ถูกยกระดับเป็น “เสี่ยป้อม”

มันก็เป็นอะไรที่ชัดเจน เห็นได้เลยว่า ขุมทรัพย์นาฬิกา แหวนเพชร ถูกขบวนการ “ไล่ล่า” ตามเก็บข้อมูล สะกดรอยมาตลอดและอย่างต่อเนื่อง จนถึงจังหวะที่เปิดออกมาเขย่ากันแรงๆแบบไม่ให้ทันตั้งตัว

เป้าหมายหักขา “พี่ใหญ่” ทำให้ “นายกฯลุงตู่” อ่อนกำลัง

“นั่งร้าน” รัฐบาล คสช.อยู่ในสภาวะโยกเยก ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม

“นายกฯลุงตู่” จึงต้องเสริมฐานด้านอื่นให้แข็งแรง ไม่ให้พังถล่มลงมา

อย่างไรก็ตาม โฟกัสจากผลสำรวจความนิยมของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ล่าสุด กับ 10 อันดับบุคคลแห่งปี ที่ประชาชนชื่นชอบในผลงาน

เบอร์หนึ่งยกให้ “ตูน บอดี้สแลม” ด้วยคะแนนท่วมท้นเกินร้อยละ 50

แต่ในส่วนของคนการเมืองที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรก มีอยู่ 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช.ที่มาเป็นอันดับ 2

อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นอันดับ 3 อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นลำดับ 4 และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ติดอยู่อันดับ 10

ว่ากันตามเนื้อผ้า พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือผู้นำที่สร้างสีสันตลอดปี ขณะที่อดีตนายกฯทักษิณกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังคงอยู่ในความทรงจำของกองเชียร์ขาประจำไม่เสื่อมคลาย

ที่น่าสนใจก็คือนายสมคิดที่ “ก้มต่ำ” หลบแรงกระแทกมาตลอด ไม่ทำตัวเด่นท้าทาย แต่ยังแทรกเข้ามาติดโผความนิยมของประชาชน ก็คงเพราะบทกัปตันทีมเศรษฐกิจที่จับต้องเนื้องานได้ในภาพรวม
“ลุงตู่-สมคิด” ยังพอไปวัดไปวาตอนสายๆได้

เรือแป๊ะจะไปต่อได้ไกลแค่ไหน ก็อยู่ที่ 2 คนนี่แหละ.


ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: