PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สนช.เห็นชอบกม.ป.ป.ช.

สนช.เห็นชอบกม.ต่ออายุปปช.หลังใช้เวลาพิจารณา 3 วัน เผย 29 สนช.ใช้สิทธิ์งดออกเสียงการต่อายุป.ป.ช.พร้อมตั้งกมธ.สอบประวัติ ฯ7ว่าที่ กกต.
      25 ธ.ค.60 มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ...ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิกสนช.เป็นประธาน ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมสนช.เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.โดยเป็นขั้นตอนของการลงมติในวาระ 2 ที่ละมาตรา จนครบ 193 มาตราโดยใช้เวลาการลงมติกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระ 3 ด้วยคะแนน 197 ต่อ 1 เสียงงดออกเสียงจำนวน 7 เสียง เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ...

       ทั้งนี้ตามขั้นตอนจะต้องมีการส่งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช.ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาว่าการแก้ไขเนื้อหาของร่างกฎหมายของสนช.ขัดต่อเจตนารมณ์หรือไม่ก่อนจะตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่างป.ป.ช. กรธ. และสนช. อย่างไรก็ตามหากทั้งป.ป.ช.และกรธ.ไม่เสนอให้ประธานสนช.ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะมีผลให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

       สำหรับประเด็นสำคัญที่ได้มีการแก้ไข คือ การตัดเนื้อหามาตรา  37/1 ออกไปทั้งหมด ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ว่าด้วยการให้ป.ป.ช.สามารถขออนุญาตจากอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใดได้ จากเดิมที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯได้บัญญัติขึ้นมาใหม่ ภายหลังสมาชิกสนช.หลายคนได้อภิปรายคัดค้านจนพล.ต.อ.ชัชวาลย์ต้องประกาศขอถอนมาตรา 37/1 กลางที่ประชุมสนช.เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา

       ขณะที่มาตรา 178 ซึ่งบัญญัติว่า"ให้ประธานกรรมการป.ป.ช.และกรรมการป.ป.ช.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนดในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 หรือพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 19 เว้นแต่กรณีตามมาตรา 19 (3) ในส่วนที่เกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตามมาตรา 9 และลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 (1) และ 18 มิให้นำมาใช้บังคับ" อันเป็นการกำหนดให้ประธานป.ป.ช.และกรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบันยังสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามกฎหมาย ซึ่งที่ประชุมสนช.มีมติเสียงข้างมาก 157 ต่อ 26 คะแนนเห็นชอบกับมาตรา 178 โดยมีสมาชิกสนช.ใช้สิทธิ์งดออกเสียง 29 คน

      จากนั้นที่ประชุมสนช.ได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน หลังศาลฎีกาได้มีหนังสื่อยืนยันมาถึงสนช.แล้วว่า กระบวนการคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งกกต.นั้นกระทำโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยตั้งกมธ.จำนวน 17 คน พิจารณาภายใน 60 วัน

ไม่มีความคิดเห็น: