PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

"หยุ่น"อำลาเนชั่นฟันธงอีก3ปีสื่อหายไปจากระบบ40%

'สุทธิชัย หยุ่น' อำลาพนักงานเนชั่น ขอกลับไปใช้ชีวิตบั่นปลายอย่างสงบสุข ฝากยึดแนวทางสื่อคุณภาพ รายงานข่าวเน้นเนื้อหา เชื่อ 'ผู้บริหารใหม่' พร้อมฟังข้อเสนอ ฟันธงอีก 3 ปี สื่อหายร้อยละ 40

picnatuomm

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 ม.ค.2561  ที่มหาวิทยาลัยเนชั่น พนักงานบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดงานเลี้ยงอำลานายสุทธิชัย หยุ่น ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือเนชั่น ที่ขอเกษียณการทำงานของตัวเอง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ไม่มีอารมณ์เศร้า มีพนักงานเนชั่นเข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงพนักงานเนชั่นที่ลาออกไปแล้วบางส่วนด้วย ต่างคนต่างยิ้มแย้มเป็นกำลังใจให้กัน 

นายสุทธิชัย กล่าวต่อพนักงานตอนหนึ่งว่า หลังจากนี้จะทำงานเขียนคอลัมน์กาแฟดำ รวมถึงออกรายการทางเนชั่นทีวี ถึงวันที่ 28 ก.พ. และจะหยุดทำงานตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป แต่จะสื่อสารกับสังคมทั่วไปอยู่ โดยจะทดลองอะไรเล่นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ทำอะไรที่ซีเรียสมากมาย ทำเล่นๆดูว่าจะทำอะไรได้หรือไม่ได้ และจะเขียนหนังสือ 1 เล่ม เพื่อเล่าประสบการณ์ทั้งหมด หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนทำสื่อรุ่นใหม่ เพื่อเรียนรู้อดีตและเป็นตัวอย่างว่าอะไรที่ตนทำพลาดจะได้ไม่ทำตาม อะไรที่น่าจะเป็นบทเรียนที่จะปรับปรุงก็สามารถเอาไปเป็นไอเดียได้

“สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดคือสื่อจะสูญพันธ์ สื่อในความหมายที่เราอยากเห็นมันจะไม่สามารถพัฒนา ปรับตัวให้ได้กับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคสื่อ สิ่งที่ผมจะเสนอออกมาเป็นความเห็นใครจะฟังหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ที่สุดแล้วผมจะได้ช่วยคิดว่าหากสื่อไม่เอาเรตติ้งแล้วสื่อที่มีคุณภาพจะอยู่ได้อย่างไร” นายสุทธิชัย กล่าว

picnatuomm00

นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า จากนี้พนักงานเนชั่นจะต้องบอกว่าทิศทางของบริษัทที่ควรจะเป็นนั้นเป็นอย่างไร ตนเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้บริหาร ต้องอาศัยพนักงานเนชั่นที่เป็นมืออาชีพ ที่จะบอกเขาว่าแนวทางของเราเป็นอย่างนี้ เราต้องวิเคราะห์ให้เขาฟังว่าจะดูอนาคตของสื่ออย่างไร พวกเราเองจะต้องนั่งวางแผนกัน อย่ารอให้สั่งอย่างเดียว อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์อะไรแล้วมาถามว่า เหตุใดถึงเป็นอย่างนี้ เราสามารถกำหนดแนวทางการทำงานได้ คนเนชั่นเป็นคนริเริ่มสิ่งใหม่ๆมาตลอด 40 ปี เราเป็นคนสร้างเทรนด์ในวงการสื่อ ดังนั้นเราจะต้องสร้างเทรนด์ด้วยว่าวิธีการนำเสนอเนื้อหา การที่จะสร้างรายได้จากเนื้อหาควรจะเป็นอย่างไร

“ผมพูดมาตลอดว่าอย่าดูแต่เรตติ้งอย่างเดียว ดิจิทัลทีวีที่มีเรตติ้งสูงๆหลายเจ้าก็มีปัญหา ผมพูดจนน้ำลายแห้งก็ไม่มีใครฟัง เพราะว่าพวกเราเชื่อในเรื่องเรตติ้ง ผมบอกว่าทำไมเราไม่สร้างเนื้อหาที่คนอื่นไม่มีแล้วออกไปขายว่าเราแปลก เราไม่มีคนดูเป็นล้าน แต่เรามีคนดูที่มีคุณภาพ เรตติ้งควรเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไม่ควรเป็นชีวิตจิตใจของพวกคุณ คนเนชั่นต้องพิสูจน์ให้ผู้บริหารเห็นว่าฝีมือของพวกเรา เมื่อรวมพลังกันแล้ว นั่งคุยกันแล้วสามารถทำได้ ผมเชื่อว่าทำได้นะ เพียงแต่ที่ผ่านมาพวกคุณรอให้สั่ง รอให้คนมากระตุ้น ผมอายุ 72 แล้วมาบ่นมากไม่ได้แล้ว” นายสุทธิชัย กล่าว

นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า ตนขอฝากให้ทุกคนสร้างเนชั่นขึ้นมาในโลกดิจิทัลใหม่ ในโลกโซเชี่ยลมีข่าวปลอมเยอะ ข่าวลวงเยอะ เราจะทำอย่างไรให้คนเข้ามาอ่านเนชั่นแล้วเชื่อถือได้ อีก 3 ปีข้างหน้า ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้ พวกเราต้องระดมสมอง และจะมีทางแน่นอน แต่ก็ต้องรอดูความเปลี่ยนแปลง ปรับให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณต้องรู้ว่ามันเร่งด่วน มันเป็นวิกฤต คุณต้องหาสูตร หาทางออกให้ได้ เพราะนี่คือวิกฤตที่สำเร็จก็จะมีไม่กี่เจ้าที่รอด

“ผมเชื่อว่าสื่อร้อยละ 40 จะหายไปจากสาระบบ ไม่ว่าจะมีทุนเยอะแค่ไหนก็ตาม ไม่สามารถไปรอด หากไม่มีเนื้อหาที่ตรึงตลาดเอาไว้ได้ ผมขอบคุณทุกท่านขอให้ทุกคนโชคดี มีความสุข และประสบความสำเร็จในทุกด้าน มีอะไรปรึกษาพูดคุยผมได้ แต่ขอหลบไปพัก เพื่อที่จะใช้ชีวิตบั่นปลายอย่างสงบสุข” นายสุทธิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังที่นายสุทธิชัยพูดกับพนังงานเนชั่นเสร็จแล้ว มีบรรดาพนักงานเข้าไปถ่ายรูป และมอบดอกกุหลาบให้นายสุทธิชัยจำนวนมาก 

ไม่มีความคิดเห็น: