PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561

ยังแค่ 'ยืมมือ' ยันท็อปบูต

ยังแค่ 'ยืมมือ' ยันท็อปบูต


มาถึงขั้นนี้แล้ว น่าจะไปไหนไปกัน

ถึงแม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จะออกตัวกับคำถามที่ว่า จะเป็น “กองหนุน” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ในแผนต่อตั๋วเก้าอี้ผู้นำหรือไม่
โบ้ยว่าเป็นเรื่องอนาคต อย่าสมมติ–อย่าเผื่อ “เป็นเรื่องประชาชนตัดสิน”

แต่ขึ้นชื่อว่า “พี่ใหญ่” มีหรือจะทิ้งจะเทน้องเลิฟ

เห็นได้จาก ถึงแม้จะเจอมรสุมข่าว “นาฬิกาหรู” กระแทกใส่เป็นรายวัน

จนต้องนิ่งตั้งหลักกับคำถาม

พอมีคิวการขยับของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยรวมตัวเดินสายอวยพรแกนนำช่วงปีใหม่ หนีไม่พ้น “บิ๊กป้อม” ต้องออกโรงช่วยกระตุกเบรก “เป็นเรื่องของนักการเมืองเก่าๆ”

อย่างไรเสีย “บิ๊กตู่” ก็ต้องอาศัยสไตล์ใจถึงพึ่งได้ คอนเนกชั่นกว้างไกลอย่าง “พี่ใหญ่” มาเป็น “กองหนุน” คนสำคัญในโหมดการเมือง คู่ขนานไปกับมือประสานอื่นๆ

เพราะตำรับคนคู่ คสช. มี “ลุงตู่” ก็ต้องมี “ลุงป้อม”

ในจังหวะที่หลายอย่างเริ่มชัด “บิ๊กตู่” นำทัพ “พี่น้อง 3 ป.” เข้าสู่วงการเต็มตัว โชว์แผนต่อตั๋วเต็มๆ
และรอสัญญาณ “ถูกเลือก” อย่างเป็นทางการ กับสนามเลือกตั้งห้วงเปลี่ยนผ่าน

แน่นอน นั่นก็ย่อมมีแรงกระทบจากขั้วฝ่ายอื่นๆตามมา โดยเฉพาะการโชว์หน้า โชว์ตาของผู้นำ ถูกล็อกเป้าถล่มจาก 2 ค่ายการเมืองใหญ่ เพื่อไทย–ประชาธิปัตย์ เป็นที่เรียบร้อย

ดักคอ ดักทาง สกัดเส้นทางสู่ดวงดาว

ที่น่าสนใจกว่านั้น จับตาไปที่ “สูตรแก้” 2 พรรคจับมือต้าน “พรรคท็อปบูต”

ที่ถูกชูออกมาจากคนทั้ง 2 ค่ายใหญ่ นัยว่าอ่านสมการตัวเลขการเมืองแล้ว ยังยากที่พรรคการเมืองค่ายใหม่ จะโกยแต้มแซงสองขั้วได้

ฉะนั้นทางเดียวที่จะล้มแผน “นายกฯลุงตู่” คือพรรคเพื่อไทย–ประชาธิปัตย์ ต้องแพ็กกันให้แน่น
คว่ำบันไดขั้นสุดท้ายสู่เก้าอี้ “ผู้นำคนนอก”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สูตรที่เดินตามตำรา “ศัตรูของศัตรู คือมิตร” จะเข้าล็อกแก้ทางท็อปบูตได้ฉมัง
แต่ถึงตรงนี้หลายฝ่ายก็ยังมองว่า โอกาสเป็นไปได้น้อย

นอกเหนือไปจากเหตุผลที่ว่า 2 พรรคใหญ่ค่ายเก่า เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ ประเภท “ปลาคนละน้ำ” แบ่งข้างฟัดกันมากว่าทศวรรษ ถึงเวลาจะมาจูบปากจูนเครื่องกันก็คงเหนื่อย

และยังมีปัจจัยภายในแต่ละพรรค ตั้งเงื่อนตั้งแง่จนยากจะคลิกลงตัว

ทั้งชื่อคนในตระกูลชินฯของ “นายใหญ่” ทั้งเงื่อนไข

“หัวขบวน ปชป.” กับชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษา ปชป. ในปมใหญ่เรื่องการเปลี่ยนแปลง

จน “สูตรแก้ทาง” ชักจะเป็นได้แค่ “สูตรขู่” ท็อปบูต

สำหรับพรรคเพื่อไทย ของนายใหญ่ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” เจอเกมบี้จวนจนกระดาน แม่ทัพขุนพลที่เหลือก็มีชนักค้างใน ป.ป.ช. ทั้งปมจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุม นปช. เสนอกฎหมายล้างผิดสุดซอย ฯลฯ

จะหืออือไม่ได้มาก เพียงแต่ต้องหาช่องดิ้น ชูสูตร “2 ค่ายจับมือ” ชะลอคิวบี้ให้ลังเล

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่แตกต่างกัน นอกจากชนักคดีเกี่ยวโยงกับกลุ่ม กปปส. ปมสลายม็อบปี 2553 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ไปจนกระทั่งถูกใส่ “ยาฆ่าแมลง” บอนไซพรรค
มีสัญญาณแรง ขั้ว “อำนาจพิเศษ” ส่ง “ลุงกำนัน” มาไล่ช้อนลูกค่ายตัดแต้ม

สูตรหันไปญาติดี สมานฉันท์กับพรรคเพื่อไทย น่าจะลงล็อก อย่างน้อยก็ยันเกมรุกทอนกำลัง ปชป.
ฉะนั้นวันนี้เรียกว่าทั้ง 2 ค่าย ต่างฝ่ายต่างแค่ “ยืมมือ”

ส่วนจะเดินไปถึงขั้น “จับมือ” นั้น คงต้องคุยกันอีกยาว.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: