PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

ลุ้นช็อตเคลียร์อีกลอต

ลุ้นช็อตเคลียร์อีกลอต


ผวา ระวังตัวแจเลย

กับช็อตที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ต้อง เอ่ยปากถามทีมงานของกระทรวงศึกษาธิการที่นำเด็กมามอบดอกกล้วยไม้ประจำวันครูให้นายกฯและ ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล

ย้ำให้แน่ใจว่า ดอกกล้วยไม้ที่นำมานี้ไม่ต้องซื้อ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรใช่ไหม

อาการแหยงยังเข็ดไม่หาย จากเรื่องหมาๆที่เพิ่งเคลียร์กันซาไป

ในห้วงสถานการณ์ที่ “นายกฯลุงตู่” ต้องตั้งการ์ดสูงไว้ก่อน เพราะเกราะกำบังอำนาจพิเศษของรัฏฐาธิปัตย์เสื่อมพลังลงไป หลังประกาศตัวแสดงตนเป็นนักการเมือง

เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งพร้อมถูกจุดไฟเป็นเรื่องใหญ่ได้ตลอดเวลา

ตามธรรมชาติของคำว่า “การเมือง” ที่ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร

ที่แน่ๆกระโดดเหยงก่อนเลย ก็คือคิวของ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่บอกปัดออกอากาศไม่เดินตามยุทธศาสตร์ของ “บิ๊กตู่” ที่ประกาศตัวเป็นนักการเมือง

เบื้องต้นเลยเดาทางได้ น่าจะ “ขยาด”

ก็ขนาดอยู่ในสถานะเบอร์สองของทีมอำนาจพิเศษแท้ๆ ยังโดนล่อเป้าเป็นตำบลกระสุนตก อ่วมแล้วอ่วมอีก ขืน “พี่ใหญ่” โชว์ตัวลงสนามการเมืองตาม “บิ๊กตู่”

ตามสภาพคงโดนโจทก์รุมถล่มเละ ดูไม่จืดแน่

แต่อีกนัยมันก็แปรรหัสได้ว่า “พี่ใหญ่” ตีกรรเชียง ชิ่งตัวเองออกจากเส้นทางไปต่อของ “น้องเล็ก”

นั่นหมายถึง “บิ๊กป้อม” พร้อมหยุดเส้นทางตัวเองที่ปลายทางโรดแม็ป คสช.ไม่ไปต่อ

ช่วงเปลี่ยนผ่านอีก 5 ปี เพื่อตัดเงื่อนไขที่มีเสียงยุ เสียงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดตัวถ่วงทิ้ง

และจริงๆเลย สถานการณ์มาถึงตรงนี้ ก็เหลือแค่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่จะปั่นแต้ม โชว์เนื้องานด้านเศรษฐกิจ เพื่อเป็นใบเบิกทางให้ “นายกฯ ลุงตู่” กลับมาเบิ้ลเก้าอี้ผู้นำแบบไม่ต้องออกแรงมาก

โดยมีชื่อของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ผู้กว้างขวางในทุกวงการ คอยเป็นมือประสาน พร้อมคุมกำลังคอยคุ้มกันหลังให้ “พี่ตู่”

ดูตามหมากที่วางไว้เข้าเหลี่ยมเข้ารอยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ถึงได้หงายไพ่ แบไต๋ต่อตั๋วอำนาจ

และนั่นก็ตรงกันข้ามกับนักการเมืองที่แตะมือสกัดเส้นทาง “บิ๊กตู่” ดูเหมือนเป็นฝ่ายกุมสภาพกดดัน
แต่เมื่อสำรวจสภาพแท้จริง สิ่งที่ซ่อนอยู่คือภาวะ “กลวงใน”

ไล่จากสัญญาณการแตกทัพของลูกข่าย “นายใหญ่” ตามอาการของแนวร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงที่ประกาศเลิกอิงแอบกับตระกูลชินวัตร

ยึดการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์

นั่นหมายถึงเสื้อแดงกับเพื่อไทยคงถึงทางต้องแยกกันเดินคนละสาย

แต่ที่สำคัญ “นายใหญ่” จะขยับต้องคำนึงถึงเงื่อนไขปมผลประโยชน์ของครอบครัวคนใกล้ชิด

โดยเฉพาะกับสถานะความชัดเจนของ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ล่าสุดนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยแล้วว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษเล่าให้ฟังว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์อยู่ที่กรุงลอนดอนตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2560 ที่ผ่านมา

สถานะการขอลี้ภัย จะทางโล่งหรือโดนขวาง ฟังจากนายดอนที่พูดเป็นทำนอง รัฐบาลต้องพิจารณาก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่ จึงจะมาคุยกันว่าใครจะทำหน้าที่ในการคัดค้านการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย

ตามรูปการณ์โยงเงื่อนไขน้องสาว “นายใหญ่” ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มสูบ

เหนืออื่นใด ปัจจัยมันแปรผันตามคดีความสำคัญที่ยังค้างอยู่

ดูแล้วในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังจัดทัพไม่ได้ เพราะยังต้องลุ้นปมมติ ครม. “เยียวยากลุ่มเสื้อแดง” โดยไม่มีหลักกฎหมายรองรับ ที่จ่ออยู่บนเขียงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แนวโน้มส่อยกแผงอดีตรัฐมนตรี ขุนพลแถวสองแถวสาม

ทีมงาน “ทักษิณ” อีกลอตใหญ่

นกแล นกเอี้ยง แทบไม่เหลือทำพันธุ์แล้ว

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่พ้นบ่วงกรรม กับคดีสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง นปช.ที่แยกราชประสงค์เมื่อปี 2553 คนตายเจ็บจำนวนมาก “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ กับ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ.ยังอยู่ในข่ายได้ลุ้นเสียว

คดีคาอยู่ใน ป.ป.ช.จ่อเดินหน้าต่อได้ทุกเมื่อ ท่ามกลางเสียงทวงถามของแกนนำเสื้อแดง ขอความเป็นธรรมให้คนตาย

ยิ่งเป็นอะไรที่ประชาธิปัตย์เล่นบทเฮี้ยวใส่ คสช. กดดันฝ่ายคุมเกมอำนาจ

โอกาส “อภิสิทธิ์” ก็เสี่ยงสูงตามไปด้วย.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: