โฆษกศาลเเจงข้อกฎหมาย ‘2อดีตว่าที่กกต.สายศาล’ ลงสมัครซ้ำ ตามพรป.กกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. ประกอบด้วยกรรมการ 7 คน โดยจำนวน 5ใน 7 คน จะได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย 1.นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการจะประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เเละผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรรมการ ประธานศาลปกครองสูงสุด บุคคลซึ่งศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่มิใช่คณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด องค์กรละ 1 คน โดยให้เลขาธิการวุฒิสภาเป็นเลขานุการของคณะกรรมการสรรหา และให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา โดยจะคัดเลือกผู้ได้รับการสรรหาจากบุคคลผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในสาขาวิชาการต่างๆ ที่ยังประโยชน์แก่การบริหารและจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ส่วนอีก 2คนที่เหลือจะ คัดเลือก จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านกฎหมาย และเคยตำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีผู้พิพากษาไม่ต่ำกว่า 5 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนนี้สาเหตุที่สนช.ลงมติไม่เห็นชอบรอบดังกล่าว เพราะสนช.เกรงว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย เนื่องจากมีข้อทักท้วงว่า การลงมติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่เลือกนายฉัตรไชยกับนายปกรณ์ ไม่ใช่การลงมติแบบเปิดเผย จึงอาจเกรงว่าจะเกิดปัญหา หากมีคนยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทำให้สนช.เทเสียง โหวตไม่เห็นชอบทั้ง2คน อย่างไรก็ตาม ในการคัดเลือกกกต.สายศาลรอบนี้ มีการออกระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการคัดเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 เพิ่มเติมเป็นฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น