PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

ถึงจังหวะคลุกวงใน

ถึงจังหวะคลุกวงใน



เรียกเสียงอนุโมทนา สาธุ ดังเซ็งแซ่
กับภาพที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียลมีเดีย เผยแพร่เรื่องราวของ “พระประดิษฐ์ ฐานุตตโม” หรือนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คมนาคม และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มหาเศรษฐีและนักธุรกิจชั้นนำระดับมหาเศรษฐีของประเทศ ที่ปัจจุบันได้หันหลังให้ทางโลก มุ่งหน้าเข้าสู่ทางธรรมด้วยการบวชจำพรรษา ใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่ายและสมถะอยู่ที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย นานกว่า 2 เดือนแล้ว
แนวโน้มพบทางสว่าง นักการเมืองรุ่นใหญ่ตัดขาดอดีตวุ่นวาย
ในสถานการณ์ของพวกที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวังวนโลกสมมติอันสับสน บรรยากาศการเมืองจะเริ่มปั่นป่วนตั้งวันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ตามจังหวะที่ คสช.ไฟเขียวให้พรรคการเมืองป้อมค่ายเก่าได้ขยับปรับฐานสมาชิกพรรค เช็กขุมกำลัง ขานชื่อใครอยู่ใครไป
ยกแรกที่จะได้ “เคาะสนิม” กันอย่างเป็นทางการ
จับกระแสความเคลื่อนไหวที่ขยับออกตัวก่อนใคร ตามข่าวที่กลุ่ม “วาดะห์” เตรียมแหกค่ายพรรคเพื่อไทย สลัดคราบ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกไปสังกัดป้อมค่ายการเมืองใหม่
ปักธงทวงคืนความยิ่งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
โดยปรากฏการณ์สะท้อนสภาวการณ์แท้จริงภายในพรรคเพื่อไทย ที่แม้จะถูกจัดอยู่ในสถานะ “เต็งหนึ่ง” กระแสดี ยี่ห้อ “ทักษิณ” กองเชียร์ยังแน่น
แต่แฝงไว้ด้วยอาการ “กลวงใน”
ร่องรอยร้าวๆเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากปฏิกิริยาต่อต้าน “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ถือธงนำทัพ ถึงขั้นที่ลูกชายของ “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีสายตรงดูไบ ออกมาชกข้ามรุ่น ก่อนโดน “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ตบปากสั่งสอนทางเฟซบุ๊ก
ศึกชิง “นอมินี” ระหว่างบรรดาเจ๊ๆเฮียๆ เคลียร์กันไม่จบ
ประกอบกับเงื่อนไขสถานการณ์ที่แยกกันไม่ออก ระหว่างพรรคเพื่อไทย ทีมเสื้อแดงนปช. ก๊วนนิติราษฎร์-นิติเรด พรรคอนาคตใหม่ของ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปจนถึงม็อบคนอยากเลือกตั้งของ “จ่านิว-รังสิมันต์ โรม”
ล้วนแล้วแต่ถูกโยงเข้าหา “นายใหญ่” ถูกมองรับแผนจากดูไบ
เป้าหมายมันอยู่ที่ทวงคืนอำนาจจากขั้วอำนาจ คสช. นั่นก็หนีไม่พ้นแรงต้านอย่างหนักจากฝ่ายต้านระบอบ “ทักษิณ” ยากจะฝ่าด่านฝ่ายคุมเกมอำนาจ
ถึงจุดที่ข่าววงใน “นายใหญ่” ส่งสัญญาณพรรคเพื่อไทยต้อง “แตกทัพ”
แยกกันเดินก่อนไปร่วมกันตีในการแย่งจัดรัฐบาล
ขณะที่สถานการณ์ของฟากประชาธิปัตย์เองก็ตกอยู่ในสภาพรอพรรคแตกเหมือนกัน
จับทางจากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เริ่ม “ปั้น” หลานชายอย่าง “หนุ่มไอติม” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส่งขึ้นเวทีดีเบต เปิดตัวทางการเมือง
ตามท้องเรื่อง “อภิสิทธิ์” ก็คงรู้สถานการณ์ดี ตัวเองอยู่ในห้วงนักการเมืองค่อนไปทางพันธุ์เก่า มีส่วนร่วมก่อวิกฤติมา ถึงเวลาขายไม่ออกแล้ว ต้องเข็นรุ่นหลานลงชิงกระแสคนรุ่นใหม่
แนวโน้มในพรรคเองก็ส่อเค้าต้องมีการ “หักดิบ”
โดยรูปการณ์ที่ทีม กปปส.ของ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แฝงตัวอยู่เพียบ รอจังหวะเวลาที่ คสช.ไฟเขียวให้พรรคดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองได้
เกมโหวตไล่ “อภิสิทธิ์” ต้องเกิดขึ้นแน่
เพื่อเปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ได้มีความคล่องตัวในการแจมอำนาจ
ดูแล้วโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยต้องเหนื่อยหนักตั้งแต่ยกแรก ก่อนลงสนามเลือกตั้ง
“ขาใหญ่” เจ้าถิ่นทั้ง 2 ค่าย พลังไม่แข็งแกร่งอย่างที่คิด
โดยจังหวะเป็นใจกับ “ลุงตู่” ที่จะแสดงความชัดเจนกับค่าย “พลังประชารัฐ”
คลุกวงในเกมเลือกตั้ง ยกระดับความชอบธรรมกลับมาเป็น “นายกฯคนใน”
ตามสภาพการณ์แบบที่เห็นๆ แค่จับสัญญาณได้ว่า “ลุงตู่” จะลงสนาม ยังโดนนักการเมืองตั้งแถวรับน้องกันแต่หัววัน รุมถล่มเช้าเย็น
นักการเลือกตั้งเขี้ยวลากดิน ไร้มิตรแท้ ศัตรูถาวร ไม่มีคำว่า “สัจจะ” หรือ “สปิริต”
เลิกคิดได้ ถ้าจะลอยตัว หวังรอเทียบหามเป็น “นายกฯคนนอก”.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: