PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

“มิตร-ศัตรู” วนๆกันไป

“มิตร-ศัตรู” วนๆกันไป



“ไม่มีมิตรแท้ หรือศัตรูถาวร-ศัตรูของศัตรู คือพวก”
ความจริงที่สะท้อนภาพการเมือง ไม่เฉพาะประเทศไทย กับล่าสุดผลการเลือกตั้งใหญ่ในประเทศมาเลเซีย กลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้าน ปากาตัน ฮาราปัน ได้ 113 ที่นั่ง ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ของนายนาจิบ ราซัก นายกฯมาเลเซีย ได้ไป 79 ที่นั่ง เตรียมตัวเป็นอดีตผู้นำไปโดยปริยาย
ขณะที่นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ที่เคยเป็นผู้นำประเทศมานาน 22 ปี และลงจากเก้าอี้อำนาจไป 15 ปี คืนสู่สังเวียนรอบนี้ จ่อคัมแบ็กเก้าอี้ผู้นำประเทศในวัย 92 ปี
เป็นรายการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างครูและลูกศิษย์ทางการเมือง “มหาธีร์-นาจิบ ราซัก”
ยังไม่รวม คิวยุติความบาดหมาง ระหว่างมหาธีร์ และนายอันวาร์ ฮิบราฮิม อดีต แกนนำฝ่ายค้านที่เคยมีความแค้นต่อกันในอดีต และพลิกกลับมาเป็นแนวร่วมกันครั้งนี้
“จากมิตรกลายเป็นศัตรู ศัตรูพลิกมาเป็นมิตร”–“มีศัตรูคนเดียวกัน ก็คือพวกเดียวกัน” ตามตำราเป๊ะ
ก็คงจะไม่แตกต่างกับประเทศไทย ล่าสุด 2 อดีต ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ทั้ง “พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ” และ “สุรชาติ เทียนทอง” ออกมาโวยคำสั่งจากสำนักงานเขตคันนายาว–หลักสี่ ให้งดทำกิจกรรมและขึ้นป้ายบริการฉีดยุง วัคซีนสุนัข แมว โดยอ้างคำสั่ง คสช.
มีการตั้งข้อสงสัย เหตุใดคำสั่งที่ออกมาช่วงนี้ ตั้งข้อสังเกตคำสั่งเลือกปฏิบัติ ใจคับแคบ
แม้ยังไม่ระบุชัด แต่เอ่ยอ้างคำสั่งที่โยงไปถึงวาระแฝงการเมือง
แน่นอนคิวนี้อดีต ส.ส.เพื่อไทย ย่อมพุ่งเป้าไปที่ “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จากการแต่งตั้งของ คสช. พร้อมๆกับความเคลื่อนไหว พรรคใหม่ค่ายหนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปักหมุดพื้นที่เมืองกรุงเป็นเป้าหมายแย่งแต้มเจ้าถิ่นเก่า ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์
และหนึ่งในจังหวะของแผน น่าจะเป็นการดึง“จั้ม” สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับมอบหมายให้คุมงานด้านเทศกิจ คุมเข้มป้ายในพื้นที่สาธารณะ
คิวคำสั่งจากสำนักงานเขตครั้งนี้ รองผู้ว่าฯ กทม.น่าจะผ่านหูผ่านตาเหมือนกัน
“จั้ม–สกลธี” และ “ออฟ-สุรชาติ” เรื่องราวหนหลัง เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งในสนามเลือกตั้งเขตหลักสี่
ดังนั้นนอกจากมองภาพกว้าง ถึงสมรภูมิแข่งขันเดือดเมืองกรุง ที่เริ่มเห็นปฏิบัติการถากถางทาง
และจังหวะเล่นลูกไหลตาม ในยุทธการ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด”
อะไรไม่ว่า ถ้าจะมองไปถึงเอฟเฟกต์สะเทือนเกมอำนาจภาพรวมหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม
กับคิวเคลื่อนตัวเชื่อมต่อในหัวเมืองชายแดน จ.สระแก้ว ที่มีชื่อของ “เสนาะ เทียนทอง” ผู้เฒ่าวังน้ำเย็น ปรากฏบนหน้าสื่ออีกครั้ง จากการโพสต์เฟซบุ๊กของกุนซือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม
เปิดคิวเตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการของ “บิ๊กตู่” ที่ จ.สระแก้ว กลางเดือน พ.ค.นี้ อาจเป็นคิวดึงผู้เฒ่าวังน้ำเย็น มาร่วมวงปฏิรูป ส่อนัยถึงลำดับถัดไป อาจชูมือ “นายกฯลุงตู่” ทำสถิติปั้นผู้นำรอบใหม่
โปรแกรมที่ “ป๋าเหนาะ” ไม่ปฏิเสธ พร้อมโยนสูตร “รัฐบาลแห่งชาติ” ถามทางอีกรอบ
“เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” รอรับดีลพิเศษ กับเครือข่าย “บิ๊กป้อม” อดีตหัวขบวนบูรพาพยัคฆ์ ที่เคยรับราชการในพื้นที่ ในสาย “บูรพาชายแดน” จ.สระแก้ว ที่เคยคุ้น คุ้นเคยเจ้าถิ่นอย่าง “ป๋าเหนาะ”
ที่จริง มีคนในเครือข่ายเจ้าพ่อวังน้ำเย็น ระดับบิ๊กหอการค้า จ.สระแก้ว ในทีมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก และเครือข่ายสนามม้านางเลิ้งของ “บิ๊กป้อม” มานานพักใหญ่แล้ว
ถึงแม้ “บูรพาสายทหารเสือ” อย่าง “บิ๊กตู่” อาจไม่แนบแน่นนักก็ตาม ก็ถือว่ายังมีเชื้อความสัมพันธ์จากอดีต
สรุปว่าดีลการเมือง “เทียนทอง–ผู้พ่อ” ในภาพรวม กับเหตุกระทบกระทั่งสั่นสะเทือน “เทียนทอง–ผู้ลูก” ในพื้นที่เมืองกรุง น่าจะเดินไปตามรูปรอยทั้งจีบทั้งเขย่ากันไป ในจังหวะเกมส่วนรวม­ส่วนตัว
แบบฉบับ “มิตร–ศัตรู” ไม่ถาวร สลับฉากในประเทศไทยเหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: