PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

‘อาเจ็ก’ ถ่วงดุลหลาน

‘อาเจ็ก’ ถ่วงดุลหลาน



ประกาศก่อนเหินฟ้าไปยุโรป เยือนประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. เปิดเผยเองเลยว่า ประเทศไทยจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหญ่ภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เรื่องสำคัญของประชาชนคนไทยทุกคน จำเป็นต้องให้บ้านเมืองสงบ
นี่คือเงื่อนปัจจัยที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงก่อนอื่นใด สำหรับประเทศไทยที่ปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เป็นที่เข้าใจได้ทั้งคนไทยและต่างประเทศ
แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็ต้องยึดตามโรดแม็ปเดิมคือเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บวกลบเผื่อเหลือเผื่อขาด ว่ากันตามข่าววงในฝ่ายคุมเกมอำนาจ โอกาสสูงที่จะได้เข้าคูหาหย่อนบัตรลงคะแนนกันในเดือนเมษายน–พฤษภาคม ปีเดียวกัน
ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่เข้าสู่โหมดเตรียมทัพลงสนาม
โดยเฉพาะปรากฏการณ์เครือข่าย “สามมิตร” ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เปิดตัว “รีเทิร์น” กลับมาลงสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ
โดยภาพที่ออกมาประกบกันระหว่างคนในตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ”
ด้านหนึ่ง “จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้เป็น “อาเจ็ก” อย่าง “สุริยะ” ลงมาคลุกวงในอยู่กับการเมืองรูปธรรมจับต้องได้ ในการเดินหน้าดึงอดีต ส.ส.เกรดเอเข้าค่ายพลังประชารัฐ
แนวร่วมกับฝ่ายคุมเกมอำนาจ แสดงตัวเป็นมือปั้นพรรคหนุน “นายกฯลุงตู่”
ขณะที่ “จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้เป็นหลานอย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กำลังโดดเด่นอยู่กับความนิยมทางการเมืองนามธรรม กระแสลอยๆในโลกโซเชียลมีเดีย
เดินเส้นทางเดียวกับฝ่ายต้าน คสช. ถูกเคลมไปอยู่ฝั่ง “ทักษิณ” เต็มตัว
“สุริยะ–ธนาธร” ปรากฏการณ์ที่ “อา–หลาน” เดินสวนทางคนละขั้ว ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่น่าจะโยงกับสถานะของอาณาจักร “ไทยซัมมิท” ธุรกิจกงสีครอบครัว
ดึงตัวกลับมาอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติอย่างเนียนๆ
แต่ที่แน่ๆในฐานะเซียนเลือกตั้งที่ผ่านสังเวียนจริงมาก่อนแล้ว แนวโน้ม “อาเจ็กสุริยะ” จึงสร้างอิมแพคในทางการเมืองได้ชัดเจนกว่า “ธนาธร”
แบบที่เห็น “สุริยะ” เปิดตัวเขย่าตลาด ดัชนียี่ห้อพลังประชารัฐดีดขึ้นทันทีทันใด
กระตุกพรรคเพื่อไทย ผวาเลือดไหลออกไม่หยุด
ตามอาการแบบที่มวยเบอร์ใหญ่อย่าง “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาปล่อยมุกกระแทกแดกดันแรงๆ
พรรคใหม่ของบรรดา “ส” ส่อเจอชาวบ้านหลอก “รับเงินหมา กาเพื่อไทย”
ทั้งขู่ ทั้งเบิ้ลบลัฟ ดักทางคนพรรคเพื่อไทยย้ายพรรคหนี
แต่นอกจากเรื่องของกระแสที่อ้างกันลอยๆว่า ชาวบ้านในภาคอีสาน ภาคเหนือ ยังภักดีกับยี่ห้อ “ทักษิณ” มุกขู่ใครย้ายหนีเสี่ยงสอบตก
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้ลูกทีมเกิดความมั่นใจในการปักหลักสู้ต่อ
แม้แต่ “นอมินี” แม่ทัพเพื่อไทยยังอึมครึมไร้ความชัดเจน
ตามสภาพการณ์ ไม่ว่า “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง จะได้นั่งแท่นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือแห้วไม่ได้
เพื่อไทยหนีไม่พ้นสถานการณ์ “วงแตก”
ยิ่งเป็นอะไรที่ได้เห็นสภาพของ “หน่วยกล้าตาย” ทีมล่อเป้าบาทาแทน “นายใหญ่”
“เสี่ยปึ้ง” นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ โดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
คดีออกหนังสือเดินทางให้อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบ
เหลือแค่โอกาสสุดท้าย ประกันตัวไปลุ้นอุทธรณ์
สภาพเดียวกับ “เสี่ยไก่” นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีคนดัง ก็กำลังลุ้นระทึกกับคดีทุจริตการอนุมัติโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติสมัยเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ
ชะตากรรม “ม้าใช้” ของ “นายใหญ่” ส่อตายตอนจบ
ใครจะเสี่ยงรบ ทั้งๆที่รู้ว่า สู้ไปตายหมู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: