PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

“ประยุทธ์” แน่น ลุยเลือกตั้ง

“ประยุทธ์” แน่น ลุยเลือกตั้ง



จับตาเส้นทางโผทหารชี้วัด “เสถียรภาพ”อำนาจพิเศษ
จบศึกฟุตบอลโลก ส่งหมูป่ากลับบ้าน
สถานการณ์คืนสู่ภาวะปกติ
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกเบียดพื้นที่สื่อไปพักใหญ่ เริ่มกลับมาสู่กระแสหลัก
เสียงทักเสียงโหวกเหวกโวยวายเรื่องดูดเริ่มกลับมาดังอื้ออึง ล้อไปกับโปรแกรมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.จะนำคณะเดินสายตรวจราชการ จ.อำนาจเจริญ พร้อมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 23–24 กรกฎาคมนี้
เจ้าถิ่นทั้งยี่ห้อเพื่อไทยและประชาธิปัตย์แท็กทีมตีปี๊บดักคอดักทางกันจ้าละหวั่น
ขวางลำยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” เจาะฐานที่มั่นเมืองอุบลฯ
ต่างคนต่างเกทัพบลัฟแหลก จุดพลุประชุม ครม.สัญจรเดินสายดูด ปูดข้อมูลคนย้ายพรรคออกมาประจาน เป้าหมายทั้งตีกันสกัดทีมงานสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงเจาะยางเตะตัดขาคนในป้อมค่ายเดียวกันเอง ที่เป็นคู่แข่งแย่งชิงการนำในพื้นที่
ถึงขั้นที่ “นายใหญ่” ต้องส่งสัญญาณจากแดนไกล สั่งให้เปิดเกมดูดสู้กลับ
ในขณะที่อีกด้าน ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ทีมงานกลุ่มสามมิตรได้รุกคืบ ดึงแนวร่วมเสื้อแดง นปช.ในภาคอีสานให้หันมาร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
กระตุกจุดเปลี่ยนสำคัญฐานสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
ไม่ใช่แค่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสื้อแดงยังโดนดูดหาย
ตามจังหวะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็สั่งกระทรวงเศรษฐกิจติดเครื่อง เดินหน้าอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
คืนแวตคนจน พักหนี้ ธ.ก.ส. 3 ปี อัปราคาข้าว ฯลฯ
เสิร์ฟสารพัดโปรโมชันรองรับปัญหาปากท้องชาวนาชาวไร่ ช่วยอุ้มผู้มีรายได้น้อย
มัดใจฐานเสียงใหญ่ของประเทศไทย
ทั้งหมดทั้งปวงในบรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติการเมืองที่กำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง
ป้อมค่ายการเมืองขยับแต่งตัวเตรียมลงสนาม
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ล้อกันพอดี ป้อมค่ายทหารก็ได้เวลาจัดแถววางกำลังแม่ทัพนายกอง
รองรับการเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม
กับกระแสข่าวล่ามาไว ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 นี้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม
โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาโยกย้ายนายทหารประจำปี 2561
ตามโปรแกรมเบื้องต้นที่มีการขอให้แต่ละเหล่าทัพส่งรายชื่อรอบแรกตามวาระปกติ ก่อนที่จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลในช่วงโค้งสุดท้ายอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สื่อแทบทุกสื่อมีการเปิดโพยรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพมอบให้ พล.อ.ประวิตรตรงกันหมด
ครบทั้งในส่วนกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ
ไล่ตั้งแต่ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ขณะที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ
โดยเฉพาะในส่วนกองทัพบกที่เป็นจุดโฟกัส
ชื่อของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก
ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 กับ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็นเสนาธิการทหารบก
ตามคาด ตามโผ แทบไม่ต้องลุ้นอะไร
โดยรูปการณ์ปีนี้โยกย้ายทหารส่อเค้าปิดกล่องเร็ว
ไม่มีแคนดิเดตมาเบียดให้ต้องประลองกำลังภายในกันเหมือนทุกปี
โดยเฉพาะตำแหน่ง ผบ.ทบ. ชื่อของ พล.อ.อภิรัชต์ อยู่ในสถานะเต็งจ๋ามาตลอด
มาถึงตรงนี้เท่ากับการยืนยันกระแสไม่พลิก โผโยกย้ายขุนทหารคลอดล่วงหน้า เปิดไพ่จ่าฝูงกองทัพบก ในจังหวะสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้าโหมดเลือกตั้ง
แม้ในทางตรงจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ในทางอ้อมมันโยงกันเต็มๆ
เกมอำนาจทางการเมืองกับหมากอำนาจกองทัพ
ภายใต้สภาวการณ์อำนาจพิเศษที่กำลังจะคืนกลับสู่เวทีประชาธิปไตย
ในเครื่องหมายคำถาม จะเป็น “จุดเปลี่ยน” หรือเสริม “ความต่อเนื่อง”
ตามท้องเรื่องที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันแล้วว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. กำลังเดินยุทธศาสตร์ตีตั๋วต่ออำนาจในการเลือกตั้ง
เบื้องต้นเลยวิเคราะห์การเชื่อมต่อกับ คสช.
ภายใต้เงื่อนไขที่จ่าฝูงกองทัพบกคนใหม่ต้องควบเก้าอี้เลขาธิการ คสช.โดยตำแหน่ง รับผิดชอบสถานะเบอร์หนึ่งคุมกำลังฝ่ายความมั่นคง
คุ้มกันหลังให้รัฐบาล “นายกฯลุงตู่”
ซึ่งดูตามเนื้อผ้า ว่ากันตามปรากฏการณ์ที่เห็นตรงหน้า ตั้งแต่ยึดอำนาจใหม่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ส่ง “บิ๊กแดง” ไปทำงานสำคัญในหน่วยงานที่มีปัญหาการ บริหารและการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้เครือข่ายอำนาจเก่า ทั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
นั่นสะท้อนถึงระดับความไว้วางใจ
รู้มือ รู้ทาง รู้ใจ กันเป็นอย่างดี
ในฐานะ “บิ๊กแดง” คือ “น้องรัก” ของ “บิ๊กตู่” ที่รู้กันในวงการ
นั่นก็เป็นอะไรที่วิเคราะห์ฟันธงกันได้ สถานการณ์ระหว่างผู้นำรัฐบาลกับ ผบ.ทบ.น่าจะแนบสนิท
ใกล้ชิดกว่าเดิมอีกหลายเท่า
ในจุดที่เสถียรภาพอำนาจไม่แกว่ง เอกภาพอำนาจแน่นปึ้ก
และนั่นก็จะโยงไปถึงสถานการณ์ในโหมดที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวของ “บิ๊กแดง” ที่ขึ้นชื่อว่ากว้างขวางในหมู่นักการเมือง
คอนเนกชัน “พลังภายใน” แผ่ไปทั่วทุกป้อมค่าย
น่าจะเอื้อต่อยุทธศาสตร์ตีตั๋วต่อของ พล.อ.ประยุทธ์เต็มๆ
ตามรูปเกม เมื่อโผทหารชัดเจนเร็ว ชื่อของ พล.อ.อภิรัชต์ ส่อแบเบอร์ตามคาด
นั่นก็น่าจะเป็นโอกาสให้นักการเมืองที่กำลังชั่งใจ กับออปชันที่มีการต่อสายให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำคุมสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านต่อหลังเลือกตั้ง
คิดง่ายในการตัดสินใจเลือกช่อง “เสียบปลั๊ก” ขั้วอำนาจ
แทบไม่ต้องออกแรงดูด แค่พูดจากันนิ่มๆก็สยิวแล้ว
แนวโน้มทีม พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งแน่น เดินหน้าลุยเลือกตั้ง
ตรงกันข้ามกับฝ่ายที่จะเลือกยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ “นายกฯลุงตู่”
เมื่อย้อนดูบทบาท จุดยืนของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ยืนอยู่คนละฝั่ง แสดงตัวแสดงตนคนละขั้วกับมวลชนเสื้อแดงและเครือข่าย “ทักษิณ” มาตั้งแต่ต้น
อย่างร้อนแรง แจ่มแจ้งชัดเจน
ออกตัวแบบล้อฟรี ไม่มีกั๊ก ไม่มีไว้ไมตรี
เมื่อชื่อนี้มาคุมเกมความมั่นคง “บิ๊กแดง” ขึ้นแท่นจ่าฝูงกองทัพบกในโหมดเลือกตั้ง
โอกาสหวนแจ้งเกิดของขุมข่าย “ทักษิณ” วิบากหนักแน่.
“ทีมการเมือง”

ไม่มีความคิดเห็น: