PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

วิพากษ์หมุดเลือกตั้ง ก.พ.62 เร็วกว่านี้ไม่ได้ แต่ช้าได้?

วิพากษ์หมุดเลือกตั้ง ก.พ.62 เร็วกว่านี้ไม่ได้ แต่ช้าได้?


หมายเหตุความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมายืนยันปฏิทินการเลือกตั้งว่าในเบื้องต้นยังเป็นไปตามกำหนดเดิมที่เคยประกาศ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 และเป็นไปตามที่คณะกรรมการเลือกตั้งระบุ



โอฬาร ถิ่นบางเตียว
คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา

ผมคิดว่าคำพูดท่านนายกฯในการสื่อสารทางการเมืองสาธารณะ มีหลักในขั้นเบื้องต้นว่าสัญญาณแบบนี้แสดงว่าการเลือกตั้งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นปีหน้าแน่นอน แต่ในทางการเมืองเมื่อดูความสัมพันธ์ระหว่าง นายกฯ-กกต.-สนช. พบว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างที่นายกฯสามารถมีอิทธิพลเหนือองค์กรเหล่านั้นที่จะให้ขับเคลื่อนไปตามความต้องการจริงหรือไม่ เช่น นายกฯสื่อสารว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ก.พ. แต่ถ้าในทางลับสื่อสารให้ สนช.หรือ กกต. ขยับไปด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย ก็สามารถทำได้
อีกประการคือสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้ไป ถ้า คสช.มีความได้เปรียบ รัฐบาลมีความได้เปรียบในการยึดกุมฐานคะแนนเสียง หรือกลุ่มขั้ว กลุ่มพลังทางการเมืองต่างๆ ได้มาก รัฐบาลอาจทำให้เกิดการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.ก็ได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลพยายามใช้โอกาสในการเดินสายหาคะแนนเสียง หรือพยายามรวบรวมกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ ถ้าทำได้โอกาสเกิดเลือกตั้งจะมีสูง แต่ถ้าหลังจากนี้รัฐบาลสูญเสียคะแนนนิยม หรือกลุ่มพรรคพลังการเมืองอื่นที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลสามารถทำให้กลุ่มก๊วนของตัวเองมีคะแนนนิยมทางการเมืองสูง รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก รัฐบาลก็อาจยื้อการเลือกตั้งได้ ซึ่งการยื้อเลือกตั้งนั้นง่ายมาก ก็บอกว่าผมเห็นว่าเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นเมื่อ ก.พ.62 แต่กระบวนการทางนิติบัญญัติ ทาง สนช.ยังไม่พร้อม เราอาจต้องขยับไป
ที่นายกฯพูดสามารถรับฟังได้ส่วนหนึ่ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้ ถ้ารัฐบาลและกลุ่มก้อนมีความได้เปรียบ โอกาสที่จะเป็นไปตามที่พูดก็มีสูง แต่ขณะเดียวกันถ้าฝ่ายตรงข้ามซึ่งพูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือฝ่ายพรรคเพื่อไทย หากสามารถตั้งหัวหน้าพรรคและปลดล็อกดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ นำไปสู่เรื่องคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งก็อาจยื้ออีกได้ ต้องมองหลายอย่าง ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต กลุ่มก๊วนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และความได้เปรียบเสียเปรียบของรัฐบาลหลังจากนี้ไป
ที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาพูดครั้งนี้คิดว่าเป็นเพราะโรดแมปมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ไม่สามารถยื้อได้ต่อ ถนนการเมืองหรือหมุดหมายทางการเมืองที่วางไว้มาถึงที่สุดแล้ว ไม่สามารถยื้อกว่านี้ได้อีก เพราะถ้ายื้อกว่านี้จะหมดความชอบธรรมลงเรื่อยๆ และสถานการณ์หลังปีหน้า รัฐบาลประเมินไว้หลายอย่าง คือรัฐบาลสามารถรวบรวมกลุ่มก๊วนและพรรคการเมืองได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตร รวมถึงโผโยกย้ายทหาร ตำรวจ ข้าราชการมีความลงตัว กลุ่มทุนมีความลงตัว กลไกสถาบันทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กกต. สนช. ทุกอย่างมีความลงตัว นักการเมืองลงตัว ซึ่งอาจลงตัวช่วงนี้หรือช่วงนั้นพอดี ทำให้รัฐบาลมีความมั่นใจที่จะประกาศว่าเลือกตั้ง ก.พ.ปีหน้า
อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องคดีความ โดยเฉพาะคดีความของคุณทักษิณและแนวร่วม จะเห็นว่ามีคดีความออกช่วงนี้เยอะมาก และจะจบปีหน้าทั้งสิ้น เราเห็นสัญญาณบางอย่างว่าเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบทุกทาง
รัฐบาลบอกจะปลดล็อกบางอย่างในกันยายนนี้ ทั้งที่จะมีเลือกตั้ง ก.พ.62 มองว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ไม่ปกติอยู่แล้ว ยิ่งถ้าปลดล็อกบางเงื่อนไขยิ่งทำให้เกิดสภาวะไม่ปกติซ้ำซ้อน จะพิการซ้ำซ้อน ถ้าติดตามการเมืองจะรู้ว่ากติกาทั้งหมดถูกร่างขึ้นมาเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง แต่กติกานั้นไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควร กติกาพิการอยู่แล้ว ถ้าไม่ปลดล็อกอีก แสดงว่าคุณใช้อำนาจอภิสิทธิ์ หรือใช้ ม.44 เหนือรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกตั้งเป็นแบบพิการซ้ำซ้อน เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งก็เป็นไปได้ เมื่อ คสช.มีอำนาจมากขนาดนี้และ คสช.มีเป้าประสงค์ชัดเจนในการสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้ง


สุขุม นวลสกุล
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าวันเลือกตั้งเร็วสุดคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปี 62 นั้น ผมมองว่าตัวท่านเองก็คงอยากจะเลือกตั้งแล้ว แต่พรรคพวกท่านอาจจะยังไม่พร้อมและยังไม่อยากเลือกตั้ง ส่วนการออกมาประกาศยืนยันเเละย้ำว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ผมว่าท่านก็พูดอย่างนี้ทุกครั้ง แต่มันก็ยังขยับได้เพราะมีการบอกด้วยว่า ยกเว้นแต่มีเหตุ ซึ่งพอถึงเวลาก็สามารถหาเรื่องไหนมาเลื่อนก็ได้ เอาเรื่องไพรมารีมาเลื่อนก็ยังได้ เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งแล้วประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา ผมว่าคนก็ยังไม่เชื่อครับ ส่วนการเปลี่ยนวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้น คิดว่าน่าจะไม่มีทาง แต่น่าจะมีโอกาสช้าลงหรือเลื่อนออกไป
เเล้วถ้ามีการเลื่อนอีกครั้งจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่นั้น ผมมองว่ากระทบแน่นอน เพราะการเลื่อนแต่ละครั้งเครดิตท่านเสื่อม ในแง่ของคนเป็นผู้นำที่พูดแล้วไม่เป็นไปตามที่พูด ซึ่งอย่างน้อยที่สุดวันนี้ผมตอบเรื่องวันเลือกตั้งด้วยความรู้สึกที่ไม่เชื่อถือในคำพูดท่าน เเละผมคิดว่าเราอยู่ในฐานะไม่มีอะไรที่จะเลือกได้ ไม่มีสิทธิเรียกร้อง ทุกอย่างแล้วแต่รัฐบาลกำหนด

ส่วนเรื่องการปลดล็อกทางการเมือง ความจริงมันควรจะปลดล็อกมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ ซึ่งวันนี้ควรจะปลดล็อกเลย ไม่ใช่แค่คลายสถานการณ์ ผมว่าพรรคการเมืองเขาพร้อมที่จะเลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนบอกว่าอย่าเพิ่งเลือก แต่เรื่องนี้อยู่ที่รัฐบาล ไม่ได้อยู่ที่คนอื่นเลย ทั้งนี้ หากไม่มีการปลดล็อกก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะทุกวันนี้บอกว่าล็อกไว้หมด แต่ก็มีบางกลุ่มรณรงค์หรือทำกิจกรรมกันได้อยู่
ส่วนเรื่องการกำหนดให้เลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ เท่ากับว่าเหลือเวลาเพียง 6 เดือน จะส่งผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ย้อนกลับไปเราเคยเลือกตั้งโดยใช้เวลาแค่ 30 วัน หรือ 1 เดือน ในปี 2526 ซึ่งสมัยก่อนเครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่ได้ทันสมัยเหมือนทุกวันนี้ ดังนั้นโดยระยะแล้วเวลาสามารถทำได้เเน่นอน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่มีความแน่นอน มีแต่คำพูด ซึ่งเหมือนที่เคยพูดมาเเล้วหลายครั้ง


พงศ์เทพ เทพกาญจนา
อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรอบระยะเวลาการเลือกตั้งไว้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมนั้น เข้าใจว่าคงดูตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบการเลือกตั้ง หรือกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส. ซึ่งระยะเวลาต่างๆ ถูกกำหนดขึ้นโดยกรอบของกฎหมายทั้งสิ้น โดย กกต.กำลังทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง และทำให้เกิดความเชื่อมั่นขึ้นในประเทศ
ส่วนจากท่าทีของนายกรัฐมนตรีและ คสช. เชื่อได้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในกรอบระยะเวลาดังกล่าวจริง รัฐธรรมนูญแม่น้ำ 5 สาย ก็เป็นคนทำให้เกิดขึ้น กฎหมายลูกต่างๆ ก็ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ โดยผู้กำหนดก็คือแม่น้ำ 5 สายทั้งสิ้น คณที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตยตราบใดที่ยังไม่มีการเลือกตั้งก็จะสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไปเรื่อยๆ แต่สภาวะความไม่เป็นประชาธิปไตยนี้ ไม่เป็นประโยชน์ต่อคนไทย และไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้เรามีปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเจรจาการค้าจะลำบากเนื่องจากประเทศคู่ค้าเขาไม่เจรจากับเราเพราะไม่มีความเชื่อมั่น นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิทธิเสรีภาพของคนในสังคมถูกจำกัด ดังนั้นคนส่วนใหญ่ของประเทศคือผู้ที่เสียหาย มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
ส่วนเชื่อหรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริงตามกรอบระยะเวลาที่ กกต.กำหนด คงหนีไม่พ้นคือยังไม่เชื่อ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องใช้สารพัดข้ออ้างจนหมดความน่าเชื่อถือ จากนี้ไปคงไม่มีข้ออ้างอะไรที่ประชาชนในประเทศหรือต่างประเทศเขาจะเชื่ออีกแล้ว

ไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์
อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ระบุว่าจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ก็จะพิจารณาอีกครั้ง ว่าการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปของ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ถือว่าแปลกและแตกต่างจากทุกครั้ง ก่อนหน้านี้ที่เลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง และการที่ พล.อ.ประยุทธ์กำหนดวันเลือกตั้งว่าเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ระบุ แต่ที่ยังมีเงื่อนไขเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งน่าแปลกทั้งที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ มาจาก คสช. ที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ถือเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดและเข้ามาบริหารบ้านเมืองกว่า 4 ปีแล้ว แต่ตัวหัวหน้า คสช. ที่เป็นนายกฯเองยังพูดถึงความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เท่ากับว่าท่านกำลังยอมรับว่าที่ คสช. ยึดอำนาจมาบริหารเองนานกว่า 4 ปี แต่ยังไม่สามารถทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยเช่นนั้นหรือไม่
ผมอยากบอกสังคมว่า อย่าพึ่งตั้งความหวังหรือเชื่อถือคำพูดไปทั้งหมด เพราะที่นายกฯกล้ากำหนดวันเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากรู้ว่าประชาชนต่างรอคอยความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น หลังจากมีการเลือกตั้งแล้ว อยากบอกว่ารัฐบาลและ คสช. จะจัดเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ผมไม่อยากให้มาบอกล่วงหน้าแต่อ้างเงื่อนไขต่างๆ นานา ที่สามารถเลื่อนออกไปได้อีก มันก็เหมือนกับการหลอกให้ความหวังกับประชาชนไปเรื่อยๆ เพราะหากมีความจริงใจว่าจะพร้อมจัดเลือกตั้งเมื่อใดก็ขอให้ประกาศกำหนดวันให้ชัดเจน โดยไม่ติดโรคเลื่อน ไม่มีเงื่อนไขต่างๆ จะดีกว่า
แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด คสช.ต้องปลดล็อกพรรคการเมืองก่อน อย่ารอความพร้อมของพรรคการเมืองที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ให้กลับมาเป็นนายกฯหรือรัฐบาลต่อในอนาคต เพราะพรรคการเมืองส่วนใหญ่ขณะนี้ต่างมีความพร้อมกันหมดแล้ว รอเพียงการปลดล็อกทางการเมืองเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น: