PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

‘เพื่อไทย’ ร่อนแถลงการณ์ จี้ คสช.ปลดล็อกการเมืองโดยสิ้นเชิง เปิดทางเลือกตั้งเสรี

‘เพื่อไทย’ ร่อนแถลงการณ์ จี้ คสช.ปลดล็อกการเมืองโดยสิ้นเชิง เปิดทางเลือกตั้งเสรี


“เพื่อไทย” ร่อนแถลงการณ์ จี้ คสช. ปลดล็อกการเมืองโดยสิ้นเชิง เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งที่เสรี
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่องเรียกร้องให้ปลดล็อกการเมืองโดยสิ้นเชิง เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ได้กล่าวหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ถ้าบ้านเมืองสงบ โดยที่รัฐบาลและ คสช.ได้ยืนยันเองหลายครั้งว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ประเทศสงบมาตั้งแต่ยึดอำนาจในปี 2557 จึงไม่อาจอ้างความไม่สงบเพื่อเป็นเหตุในการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้อีก อีกทั้งในขณะนี้รัฐบาลและ คสช.อยู่ในอำนาจจะย่างเข้าปีที่ 5 ซึ่งนานกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทุกรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการที่ประชาชนยังไม่มีสิทธิเลือกตัวแทนของตนไปบริหารประเทศ ทำให้ประเทศว่างเว้นการมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนเป็นเวลานาน ย่อมกระทบต่อหลักพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาคมโลกดังที่เป็นมาตลอดในห้วงเวลาของการยึดอำนาจ ทั้งนี้ เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 6 เดือนก็จะถึงการเลือกตั้ง ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คำสั่งของหัวหน้า คสช. และดำเนินการอื่นๆ รัฐบาลและ คสช.มีหน้าที่นำประเทศเดินไปสู่การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และน่าเชื่อถือ พรรคจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและ คสช.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และคำสั่งที่ 57/2557 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง ตลอดจนยกเลิกเงื่อนไขและข้อห้ามอื่นใด ตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ทั้งนี้ ควรยกเลิกโดยสิ้นเชิงเบ็ดเสร็จ มิใช่เพียงการ “คลายล็อก” พรรค พท.ไม่เห็นด้วยที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯแถลงว่าจะมีการปลดล็อกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ ช่วง 90 วันหลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลใช้บังคับ จะปลดล็อกบางส่วน เช่น ให้มีการประชุมพรรค การจัดตั้งสาขาพรรค การทำไพรมารี ฯลฯ ช่วงที่ 2 คือ หลังพ้น 90 วันแล้วจะปลดล็อกทั้งหมดให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ทุกอย่างตามกฎหมาย

แถลงการณ์ระบุอีกว่า พรรคขอเรียกร้องให้มีการปลดล็อกทั้งหมดโดยทันที ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 1.พรรคการเมืองต้องใช้เวลาในการจัดทำนโยบายเพื่อให้ประชาชนพิจารณาในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคต้องประชุมปรึกษาหารือ ลงพื้นที่พบปะและรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการเมืองตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดมาตรการให้การจัดทำนโยบาย การส่งผู้สมัคร การจัดทำข้อบังคับพรรค จะต้องให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ไม่นับรวมที่พรรคจำเป็นต้องศึกษาว่านโยบายที่จะประกาศใช้นั้นเป็นไปตามเงื่อนไขข้อจำกัดที่ คสช.ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างยิบย่อยมากมายหรือไม่ อย่างไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวล้วนต้องใช้เวลาทั้งสิ้น และเวลาเพียง 6 เดือนนี้ไม่พอเพียงด้วยซ้ำ 2.พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมายใหม่และคำสั่งของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นการหาสมาชิกใหม่แทนสมาชิกเก่าที่พ้นสภาพไป และการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองใหม่เนื่องจากสาขาเก่าต้องยุบไปตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 การประชุมพรรคการเมือง การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค และการจัดทำไพรมารี และยังไม่ชัดเจนว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวล้วนต้องใช้เวลาพอสมควร 3.การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และน่าเชื่อถือ ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพ และต้องมาจากการแข่งขันที่เป็นธรรม การแข่งขันของทุกกลุ่ม ทุกพรรคที่จะลงเลือกตั้ง ต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น จึงควรให้ทุกพรรคการเมืองได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่เกิดการเลือกปฏิบัติหรือแบ่งแยกเป็นพรรคเก่า พรรคใหม่ และ 4.การปลดล็อกทางการเมือง และความชัดเจนของการเลือกตั้ง จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
“พรรค พท.ยึดถือประโยชน์ของชาติมาก่อนประโยชน์ของพรรค การปลดล็อกทางการเมืองโดยเบ็ดเสร็จสิ้นเชิง ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้เรียกร้องเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ และให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีความเป็นเสรี เป็นธรรม และน่าเชื่อถือ เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า สร้างความผาสุกแก่พี่น้องประชาชน พาประเทศก้าวหน้าและประชาชนจะได้ประโยชน์” แถลงการณ์ระบุ

ไม่มีความคิดเห็น: