PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โทษคนอื่นยิ่งเข้าเนื้อ

โทษคนอื่นยิ่งเข้าเนื้อ



โชว์ฟอร์มเตะตา ขึ้นชั้น “มวยหลัก” ของ “นายใหญ่” ตั้งแต่เริ่มเลย
กับช็อตที่นายนคร มาฉิม อดีตผู้แทนฯเมืองพิษณุโลก ว่าที่ลูกแถวพรรคเพื่อไทยคนใหม่แสดงอาการ “สำนึกบาป”
ย้อนอดีตฟื้นความหลัง เปิดปฏิบัติการแฉขบวนการ “สมคบคิด”
โค่นล้มรัฐบาลสองพี่น้องตระกูลชิน ทั้งอดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โดยตัวการสำคัญก็คือค่ายประชาธิปัตย์ ต้นสังกัดเก่าของนายนครเอง
เล่นเอาคนยี่ห้อประชาธิปัตย์เกิดอาการ “ดิ้นพล่าน” นั่งไม่ติดกันทั้งพรรค รุ่นใหญ่รุ่นเล็กดาหน้าออกมารุมถล่มนายนครผู้ทรยศแปรพักตร์ ถึงขั้นจะลากขึ้นโรงขึ้นศาลเอาผิดทางกฎหมาย
กลายเป็นฝ่ายที่เจ็บตัวสุดจากเรื่องเก่าเล่าใหม่ อดีตคนในค่ายออกมาตอกย้ำประจาน
คน ปชป.พังบ้านประชาธิปัตย์ ผลงานประเดิมโชว์ “นายใหญ่”
และไม่ใช่แค่นายนครเท่านั้นที่พังบ้านเก่าเข้าบ้านใหม่ ตามข่าวที่ปรากฏตามสื่อยังมีชื่อของ “เสี่ยอ๊อด” นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปโผล่อยู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในห้วงเบิร์ธเดย์ “นายใหญ่” เปิดดีลเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย
พิจิตร พิษณุโลก “นายใหญ่” บวกเพิ่ม “ตัวเก๋า” ภาคเหนือตอนล่าง
กลบตัวเลขที่หายไปจากอาการเลือดไหลในภาคอีสาน
และตามฟอร์มก็อย่างที่เห็นลีลา ถ้าเป็นอดีต ส.ส.ที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปเข้าค่ายพลังประชารัฐ
โดน “นายใหญ่” กับลูกหาบตามด่าไล่หลังว่าถูกดูด ไม่มีอุดมการณ์
แต่พอดูดคนอื่นไหลเข้าพรรคเพื่อไทย กลับได้รับการอวยเพราะศรัทธาในประชาธิปไตย
อารมณ์แบบที่ “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรคเพื่อไทยสายเสื้อแดง นปช. รีบออกมา “ยกหาง” นายนครทันที ชื่นชมผลงานการตอกย้ำคนประชาธิปัตย์คือไส้ศึกฝ่ายเผด็จการ
โชว์เหลี่ยมการตลาดนำการเมืองอย่างเป็นระบบ “ครบวงจร”
เรื่องของเรื่องกรณีของนายนคร ถ้าย้อนไปดูข้อมูลจริงๆเจ้าตัวออกจากประชาธิปัตย์มาสังกัดพรรคชาติพัฒนาตั้งแต่ปลายปี 2556 ห้วงที่การเลือกตั้งเป็นโมฆะแล้ว และแสดงท่าทีเปิดหน้าโซ้ยกับทหาร คสช.มาตลอดในการลุยแฉทุจริตโครงการขุดลอกบึงในจังหวัดพิษณุโลกร่วมกับทีมงานเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย
ช็อตนี้ก็แค่ย้ำ “แผลเป็น” ให้ประชาธิปัตย์สะดุ้งทุกที
ที่เซอร์ไพรส์ก็คือคิวของนายประดิษฐ์ที่เงียบมาพักใหญ่หลังหลบไปบวชที่วัดป่าในจังหวัดเชียงราย หลายฝ่ายนึกว่าจะวางมือ แต่โผล่อีกทีไปป้วนเปี้ยนที่ลอนดอนห้วงวันเกิด “นายใหญ่”
ในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ “ทักษิณ” กำลังมีปัญหาเรื่องท่อน้ำเลี้ยงโดนบล็อกหมด
“เสี่ยอ๊อด” จึงอยู่ในโหมดถูกจับตาเป็น “หัวจ่าย” ใหม่
แต่เช็กข้อมูลวงการนักเลือกตั้งขาใหญ่ วันนี้ “เสี่ยอ๊อด” ก็ไม่ได้จัดอยู่ในข่าย “หน้าตักหนา” สักเท่าไหร่
ประเมินตามแนวโน้มเงื่อนไขสถานการณ์การเมืองห้วงเปลี่ยนผ่าน เซียนเขี้ยวการเมืองส่วนใหญ่มองตรงกัน ในบรรยากาศที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลือกตั้ง
อยู่ฝั่งไหนก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊า แตะมือ “เหยียบตีน” กันเล่น ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าเนื้อดีกว่า
ในมุมนี้ “เสี่ยอ๊อด” ก็คงหวังกินบุญเก่ายี่ห้อ “ทักษิณ” เกาะขบวนเข้าป้าย
ภายใต้โจทย์ยากๆ “นายใหญ่” ยังต้องคิดหนัก จะสู้จริงจังแค่ไหน
แต่ที่ลำบากยิ่งกว่าก็คือคนยี่ห้อประชาธิปัตย์จะกู้สถานการณ์ยังไง ถูกอดีตคนกันเองพังบ้านยับเยิน
โดยอาการคิดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ก็โทษรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯหัวหน้า คสช. ทำเสียของ เพราะคิดสืบทอดอำนาจ ไปดูด ส.ส.เพื่อไทยทำให้ความน่าเชื่อถือหมดลง
ทำให้ผลสวิงกลับมาอยู่กับฝ่ายยึดอำนาจ
เตะลูกกลับไปเข้าเหลี่ยม “ทักษิณ” ได้โอกาสกลับมายึดประเทศรอบใหม่
แต่พูดไปก็ “เข้าเนื้อ” คนกันเอง เจ็บแปลบๆแสบลึกๆ
ในเมื่อภาพมันฟ้องอยู่หลัดๆ ประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสเต็มๆมาแล้ว กับการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อุ้ม “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นเป็นนายกฯ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก่อนปล่อยเลือกตั้งแพ้ “ทักษิณ” ยับเยิน
นั่นต่างหากที่ชัดเจนว่าทำ “เสียของ”
อะไรไม่ว่า มาถึงตรงนี้ ประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ “เดอะมาร์ค” ก็ยังออกอาการยึกยัก ทำท่าจะขี่คอทหารกลับมาคุมอำนาจเป็นใหญ่ ส่อพฤติการณ์ให้ฝ่ายคุมเกมไม่ไว้วางใจ
ต้องตั้งค่าย “พลังประชารัฐ” มาเป็นฐานส่วนตัวของ “นายกฯลุงตู่”
เบียดประชาธิปัตย์รูดไปอยู่อันดับสามตามโพล นับวันยิ่งลุ้นไม่ขึ้น
เสียงต่อรองขอเกาะขบวน “ลุงตู่” เบาลงทุกที.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: