PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ลีลา “บิ๊กแดง” ผบ.ทบ. ตอบเรื่อง ปฏิวัติรัฐประหาร ยังไง.....พริ้ววว! บอกเป็นนัย ยก”บิ๊กตู่” เป็น ต้นแบบ

ลีลา “บิ๊กแดง” ผบ.ทบ. ตอบเรื่อง ปฏิวัติรัฐประหาร ยังไง.....พริ้ววว! บอกเป็นนัย ยก”บิ๊กตู่” เป็น ต้นแบบ .....
ไม่รับประกัน ปฏิวัติ แต่หวังการเมือง จะไม่เป็นสาเหตุความขัดแย้ง จลาจล อีก ชี้เพราะแก่งแย่งกัน ไม่รู้แพ้รู้ชนะ บ่นคนไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม
พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กล่าวถึง การให้ความมั่นใจในเริ่องการปฏิวัติรัฐประหาร หากเกิดสถสนการณ์วุ่นวาย ขึ้น ได้หรือไม่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยสื่อมวลชน บันทึกภาพเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่อย่าให้เป็นเพียงภาพแต่ควรจะอยู่ในสมองในความทรงจำ ที่เราเคยเห็นภาพต่างๆทีเกิดขึ้นแล้ว ว่า ไปไหนก็ลำบาก ค้าขายก็ลำบาก ปิดถนน คนไทยมาตีกัน ยิงกันฆ่ากัน ภาพมากมายมหาศาล ถ้ามาสร้างเป็นหนังคงจะขายดี แต่ไม่มีใครอยากจะมาจดจำในสิ่งเหล่านี้

ในสมัยหนึ่ง ทหารเรา เมื่อ ถูกรัฐบาลสั่งการสั่งการให้ไปควบคุมความสงบเรียบร้อย เราทำด้วยหัวใจ เราไม่ได้คิดเรื่องทางการเมือง ว่าเราจะมาเข้ามาบริหารประเทศผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้คิด เช่นเดียวกันแต่ความที่ต้องเสียสละ และณตอนนั้น ถ้าวันนั้น พลเอกประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจ อะไรจะเกิดขึ้น

ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ทุกคนก็รู้ว่า ผมไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวอะไรกับท่าน ท่าน ใช้ผมทำงานมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นผู้การกรม ผมเคยเจอท่าน คุยสัก 5 นาที 10 นาที ก็ ถือว่าเต็มที่แล้ว

ดังนั้น ที่ถามเรื่อง ความเป็นกลางของผมในการเป็นผู้บัญชาการทหารบก

ผมบอกได้เลยว่า เดือนหนึ่ง ได้คุย เจอสัก 5 นาที 10 นาทีถือว่าเก่งแล้ว ในชีวิตเคยนั่งคุยกับท่าน ไม่เกิน 1 ชั่วโมงแบบคุยต่อเนื่องนะ ส่วนเรื่องเจอและทักทาย ก็อีกเรื่อง

“ด้วยความรักและเคารพ. ผมเห็นในความ ทุ่มเทในการทำงาน ในการเป็นผู้บัญชาการทหารบก ท่านเป็น แบบอย่างของผม “

ถ้าวันนั้น พลเอกประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการตัดสินใจนั้น ไม่ได้อยู่ที่พลเอกประยุทธ์ แต่อยู่ที่ประชาชน

“บอกได้เลยว่า ผมคาดหวังอย่างยิ่งว่าหวังใจ อย่างยิ่ง ว่า เหตุการณ์รุนแรงในบ้านเรานี้ คงไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองเป็นแบบนี้อีกคนโน้นก็เผา คนนี้ก็เผา ตรงนั้นก็ยิง ตรงนี้ก็ยิง มันเหมือนในหนัง เหมือนในบางประเทศ สมัยก่อนเราไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาขนาดนี้ เพราะอะไร

เพราะยังคงมีการแย่งชิงทางการเมืองการเอาชนะกัน. รู้จักแพ้ ไม่รู้จักชนะ แต่ คนที่แพ้ก็คือประเทศชาติ ถามว่ากองทัพชนะ หรือ กองทัพไม่มีวันชนะประชาชนหรอก

แต่ประชาชนที่ออกมาสร้างความเดือดร้อน ที่มีการยุให้จุดไฟเผา พูดเรื่องการทำระเบิดอะไรก็ตาม นั่นคือ ท่านแพ้ท่านเป็นประชาชน ที่ทำให้ประเทศแพ้ยากที่จะฟื้นฟู การค้า ฟื้นฟูประเทศได้ ใช้เวลากี่ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ เมื่อ4 ปีที่แล้ว การยกเลิกออเดอร์การนำเข้าส่งออกจากต่างประเทศ เป็นเงินมหาศาล กว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ใช้เวลานานเท่าไหร่

ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่พอใจ มองว่า ทำไมอยู่นาน ก็ปี 2 ปีทำอะไรไม่ได้ จึงต้องมีแผนยุทธศาสตร์ 20ปี

ท่านคิดว่า จุดไฟเผาในเมือง เกิดกลียุคในเมืองขนาดนั้น ปีเดียวสิ่งปลูกสร้างอาจจะทำได้ แต่ในทางการค้าแล้ว ต้องใช้เวลา ความมั่นใจของต่างชาติในการลงทุน

แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น มันอาจจะเห็นผลช้า ไม่ทันใจ นักการเมืองบางคน แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ ไม่รีบ ผลีผลาม

ฉะนั้นสิ่งที่สื่อถามมา ผมหวังใจอย่างยิ่งว่าการเมือง อย่าเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีก

เมื่อถามว่า แสดงว่า มั่นใจว่าจะไม่มีเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอนใช่หรือไม่ พลเอกอภิรัชต์ กล่าวว่า ผมมั่นใจว่า ถ้าการเมือง ไม่เป็นต้นเหตุการจลาจล ถ้ามันไม่เกิด มันก็ไม่มีอะไร

การปฏิวัติรัฐประหาร มี 10 กว่าครั้งก็จริง แต่มันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว สมัยหลังๆนี้ มันก็เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น

ดังนั้นผมไม่ได้ว่านักการเมืองดี หรือไม่ดี ดีก็มี ไม่ดีก็มี

พลเอกอภิรัชต์ กล่าวว่าผมเสียใจในหลายๆเรื่องที่เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกละเมิด การตัดสินคดีในหลายคดีกับคนทำความผิด บอกว่าไม่เป็นธรรม และประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน อะไรเป็นกกลาง อะไรคือจุดยืนของประเทศ ในเมื่อบอกคนนี้ผิด ก็แย้งว่าไม่ผิดถูกแกล้ง แล้วจะอยู่อย่างไรตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจะให้คนไทยอยู่กันอย่างไรโดยไม่มีกฎระเบียบวินัย"

ไม่มีความคิดเห็น: