9 ต.ค.61 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีคณะนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความ “ท่าทีที่เปลี่ยนไป ของคนในรัฐบาล!” ลงในเพตเฟซบุ๊กว่า “ผมค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีและจุดยืนของรองนายกฯ นายวิษณุ. เครืองาม ที่ระบุว่าการ เดินทางไปพบคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ชิน วัตร ของแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นเสรีภาพ คสช. ปล่อยแล้ว และยังบอกว่า ใครจะตั้งพรรคสำรองกี่พรรคก็เป็นสิทธิที่ทำได้ถ้ามีทุนและมีสติปัญญา
ฟังแล้วก็ค่อนข้างแปลกใจ กับจุดยืนดังกล่าวของท่านรองนายกฯ ที่ผมเป็นห่วงก็คือการพูดเช่นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ที่กำลังตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายผิด มาตรา 28 และ 29 พรป.พรรคการเมือง ที่ห้ามพรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลภายนอกยุ่งเกี่ยวกับกิจการในพรรค ซึ่งมีผู้ร้องต่อ กกต. ในกรณีของพรรคเพื่อไทยไปแล้วก่อนหน้านี้
ท่าทีของคนในรัฐบาล บางเรื่องต้องไม่ชี้นำ บางเรื่องต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่จะมีอิสระในการวินิจฉัย เพราะอาจทำให้การทำงานของ กกต. มีปัญหาตามมาด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญเรากำลังเข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้ง มีคำสั่ง คสช. ควบคุมการทำกิจกรรมสิทธิและเสรีภาพของพรรคการเมืองสารพัดคำสั่ง แต่สิ่งที่คนในรัฐบาลทำก็ดูเหมือนกับไม่ได้เคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา นี่ยังไม่รวมถึงการทำหน้าที่ของรัฐบาลในการนำคนผิดกลับมารับโทษในกระบวนการยุติธรรมด้วย
“การตั้งพรรคสำรองหลายพรรคเพื่อเก็บคะแนนเสียงจากระบบเลือกตั้งแบบใหม่แม้เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่วิธีดังกล่าวจะทำลายระบบพรรคการเมืองที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและ พรป.พรรคการเมืองต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคการเมืองการตั้งพรรคเครือข่ายพรรคสำรองพรรคแนวร่วมจะทำให้พรรคการเมืองจมอยู่กับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ว่าจะได้มาโดยวิธีใดก็ตามแบบนี้ก็จะทำให้การปฏิรูปการเมือง โดยพรรคการเมืองไม่ประสบความสำเร็จ” นายสุริยะใส ระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น