PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การเมืองหลังเลือกตั้ง ปี 62 ประชาชนจะได้อะไร?

การเมืองหลังเลือกตั้ง ปี 62 ประชาชนจะได้อะไร?

การเปิดตัวและออกตัวของนักการเมืองที่ดาหน้ากันออกมาเลือกพรรคการเมือง หรือตั้งพรรคการเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองหน้าเก่าๆ หรือตระกูลเก่าๆที่คร่ำหวอดอยู่ในเวทีการเมืองไทยในรอบ 5 ทศวรรษที่ผ่านมา รวมทั้งหลายๆตระกูลได้ส่งไม้มายังรุ่นลูกหรือรุ่นหลานแล้ว

นักการเมืองที่ผูกขาดการเมืองไทยเหล่านี้มีแนวคิด และความเชื่อว่า “ การเมืองคือการลงทุนระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนเร็วที่สุดและสูงที่สุดกว่าธุรกิจอื่นใดๆ”

ประชาชนที่สนใจและติดตามข่าวสารการเมือง จะตระหนักถึงบาดแผลที่นักการเมืองเหล่านี้ได้สร้างไว้ให้กับระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบแบบไทยๆไว้ลึกขนาดไหน ในเรื่องการคอรัปชั่น การขายตัว การซื้อเสียง ขายเสียง. การรับเงินทอนในการลงมติระบบให้สัมปทานตั้งแต่ร้านค้าดิวตี้ฟรี ไปจนถึงโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และระบบการคมนาคมขนส่งทั้งระบบทางหลวง ทางพิเศษ และระบบราง ระบบพลังงาน การผลิตและจัดจำหน่ายเหล้า เบียร์ ซึ่งนำไปสู่การผูกขาด และปัดภาระมาให้ประชาชนแบกรับค่าสินค้าและค่าบริการในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น และแพงกว่าที่ประชาชนในประเทศอื่นๆจ่าย การรับสินบน จนมีความร่ำรวยอย่างผิดปกติ โดยที่พิสูจน์ที่มาของรายได้ไม่ได้ เป็นต้น 

ในขณะเดียวกัน ระบบผูกขาดของระบบการตลาดทำให้สินค้าเกษตรทุกชนิดราคา ทั้งเกษตรกรและครัวเรือนมีหนี้เฉลี่ยครัวเรือนละ 1 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงหรือมรดกของนักการเมืองน้ำเน่าในสภาในรอบ 5 ทศวรรษที่ผ่านมา

หลายๆคนมีคดีติดตัว เคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด และเคยติดคุกมาแล้ว หรือพัวพันกับการทุจริต มีคดีค้างอยู่ในศาล ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด แต่รอการลงอาญา บางคนบิดามารดากำลังหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ โดยสรุป บรรดาบุคคลที่ถูกสังคมและสื่อเรียกว่า “นักการเมืองน้ำเน่า” หรือลูกหลานนักการเมืองน้ำเน่า ยังสามารถเสนอหน้าเข้าสู่วงการเมืองได้โดยไม่มีข้อห้าม ไม่ถูกตรวจสอบประวัติ ไม่ถูกตัดสิทธิ์ห้ามเข้าสู่การเมืองอีก เป็นเรื่อง Amazing Thailand Politics

มีนักการเมืองหน้าใหม่หรือนักการเมืองน้ำดีหรือพรรคการเมืองน้ำดีที่ไร้ประวัติเสียหายให้ประชาชนมีทางเลือกอยู่บ้างแต่น้อยมากๆ 

กระนั้น โอกาสที่จะได้รับเลือกและแสดงบทบาทในสภาอย่างมีพลังก็ไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญปี 60 

ดังนั้น การเมืองภายหลังการเลือกตั้งปี 62 ที่จะมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ล๊อกสเป็คไว้อย่างแน่นหนา จึงมองเห็นแต่ สภาพความปั่นป่วนไร้เสถียรภาพในสภา ( Chaos ) และประชาชนส่วนข้างมากก็คงจะไม่ได้อะไรที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ค่าครองชีพถูกลง หรือมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: