PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ไ่ม่เสียของแน่

เรียงคนมาเป็นข่าว ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 : โดย ชโลทร



ไทยแลนด์ 4.0 - นภาพร รัตนแสงหิรัญ กก.ผจก. บริษัท 3 เอ็ม ประเทศไทย และ จียอง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ร่วมพิธีเปิดงาน “ขับเคลื่อน Thailand 4.0 ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม : THAILAND 4.0 IN THE MAKING” โดยมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อมุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 อย่างเป็นรูปธรรมด้วยวิทยาศาสตร์ ใน 4 ด้าน “วิทย์สร้างคน วิทย์แก้จน วิทย์เสริมแกร่ง และวิทย์สู่ภูมิภาค” เมื่อเร็วๆ นี้

•…ข่าวลือ “เลื่อนเลือกตั้ง” หายไปพร้อมกับ “กระแสเข้มข้น” ของ “พลังประชารัฐ” ที่ “นักการเมือง” ในพื้นที่เดินมาต่อแถวสมัครเป็นสมาชิกกันคึกคัก กระทั่งทุกฝ่ายสรุปว่า “นาทีนี้พลังประชารัฐร้อนแรงที่สุด” นั่นหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ซึ่ง “พลังประชารัฐ” ชัดเจนว่าตั้งขึ้นเป็นฐานส่งให้กลับมาเป็น “นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง” ราคาพุ่งกระฉูดขึ้นมาทันที หลังตกเป็นรองมาระยะหนึ่ง

•…นักวิเคราะห์ทุบโต๊ะว่า “ลองทำรัฐประหาร” ครองอำนาจมาเกือบ 5 ปี และเขียน “กฎหมายโครงสร้างอำนาจ” เปิดทางกว้างขวางแบบ “ดีไซน์มาเพื่อพรรคเรา” และปิดทางป้องกัน “เสียของ” กันแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมกันถึงเพียงนั้น แล้วยังอยู่ได้อย่างสบายๆ ไม่มีแรงกดดันใดทำให้กระทบกระเทือนได้ การกระทำอย่างอื่น เพื่อ “ปิดประตูแพ้” ย่อมเป็น “เรื่องเล็ก” ไม่มีอะไรที่ต้องทำให้ “รู้สึกว่าน่าเกลียด” แล้ว

•…ครึกครื้นกันอย่างยิ่งในหมู่นักการเมือง ด้วยเสียงเล่าลือกันสนุกปาก ด้วยความเชื่อที่ว่า หาก “ผู้ชนะไม่ใช่พลังประชารัฐ” ตั้งรัฐบาลไปก็มีหวัง “อยู่ไม่นาน” เพราะ “กฎหมายโครงสร้างอำนาจ” ไม่อนุญาตให้เป็นไปนอกแบบที่ “ดีไซน์ไว้เพื่อพรรคเรา” เมื่อ “ลงทุนแล้วอยู่ไม่ได้” จะมี “นายทุนที่ไหน” ควักกระเป๋าตัวเองมาทุ่มสู้ ผิดกับ “พลังประชารัฐ” แค่ตามน้ำไปกับ “โครงการรัฐบาล” ที่ใช้เงิน “งบประมาณจากภาษีประชาชน” ไม่ใช่ “กระเป๋าส่วนตัว” ของใคร ก็ “เหนือกว่าเหลือเฟือ”

•…ผู้สันทัดกรณียังชี้ให้เห็นอีกด้วยว่า ยังมี “การใช้อำนาจควบคุมการหาคะแนน” ซึ่ง “นักการเมือง” ต่างเชี่ยวชาญกันดีว่า ควรจัดการให้แตกต่างกันอย่างไรระหว่าง “พรรคตัวเอง” กับ “พรรคคู่แข่ง” เมื่อ “กลไกทั้งหมด” มีเป้าหมายของภารกิจชัดว่า “เสียของไม่ได้” จึงไม่แปลกที่ “เผ่าพันธุ์พลังประชารัฐ” จะฮึกเหิมด้วยความเชื่อมั่น ว่า “เที่ยวนี้ไม่มีอะไรแปลกปลอม”


•…สำหรับ “พรรคคู่แข่ง” ที่พยายามเสนอประเด็นให้เลือกว่าจะ เอา “เผด็จการ” หรือ “ประชาธิปไตย” ที่หวังได้แค่ “ประชาชน” จะเล่นด้วย โดยประเมินจาก “ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา” ทว่า “ความเชื่อของฝ่ายตรงกันข้าม” มองไม่เห็น “คุณภาพการเลือกของประชาชน” จะมีมากจนเป็นความหวังได้ขนาดนั้น ยังเชื่อว่า “ประโยชน์เฉพาะหน้า” เป็นตัวตัดสินมากกว่า ด้วย “อุดมการณ์” เป็น “ประโยชน์ที่ไกลเกินจะมองเห็น”

•…เพียงแต่ว่า “เพื่อไทย” และ “เครือข่าย” ที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็น “จุดขาย” นั้นตกในสภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” หาก “ไม่ทุ่มสู้เต็มที่” โอกาสจะสิ้นหวังในส่วนร่วมในอำนาจยาว ย่อมเป็นไปได้สูง แต่หาก “ทุ่มสู้” ในยุคที่ “กับดัก” เพียบ เสี่ยงต่อ “เสียเปล่า” เป็นอย่างยิ่ง จะเดินเกมอย่างไร “คิดไม่ง่าย” แน่นอน และที่สำคัญ ยัง “แยกสาย แตกกอ” กันวุ่นวายให้ “ฐานเสียงปวดหัว” ในการตัดสินใจเข้าไปอีก งานนี้เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่อย่างที่คิด

•…เรื่องของ “เจียง” นักธุรกิจ “ไต้หวัน” มาลงทุนในประเทศไทย ขัดแย้งกับ “หุ้นส่วน” ถูกแจ้งความข้อหากรรโชกทรัพย์ ประกันตัวชั้นสอบสวนออกมาสู้คดี จากนั้น “ตม.” ลงมาเล่นด้วย จับไปขังไว้กว่า 20 วัน หลังประกันตัวออกมาอีกรอบ “หายตัวไปอย่างลึกลับ” ไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ไหน “หุ้นส่วนที่เป็นคนไทย” ไปร้อง “กองปราบฯ” ให้ช่วยติดตาม สอบสวน เพราะเป็นห่วงว่าจะ “ถูกอุ้มฆ่า” ยังไม่ทันไร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. สรุปทำนอง “หายไปเพราะหนีคดี” คนแจ้งกองปราบฯเลย “งง” เพราะหากตรวจสอบนิดเดียวกับกองปราบฯ “บิ๊กโจ๊ก” จะไม่ด่วนสรุปแบบ “คิดเอง” อย่างนั้น ด้วยน่าจะรู้ว่ามีหลักฐานระดับขยายเป็นคดี “เรียกค่าไถ่” ได้เลย

ชโลทร

ไม่มีความคิดเห็น: