PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562

เล่นเองพลาดเอง?


ไม่ผิดคิวก็ผิดคาด เพราะคนลืมยุทธศาสตร์แห่ “ประชาธิปไตย” สู้กับ “เผด็จการ” ไปเลย
กลายเป็นกระแสแห่ “ทักษิณ” กลับบ้าน กลับมาอื้ออึง
เรื่องของเรื่อง รัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. รวมถึงทีมงานพรรคพลังประชารัฐ แทบไม่ต้องออกแรงอะไร
กลายเป็นฝั่ง “ทักษิณ” ที่ชงเอง เล่นเอง ทั้งนั้น
ตามเกมเปิดทาง “อุ้มนายใหญ่” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศรอบที่ 4 หัวเชื้อชนวนนำมาซึ่ง “ยุทธหัตถี” ระหว่าง “นายใหญ่” กับ “พี่ใหญ่” แบบที่เห็นอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เปิดฉากฟัดกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม
ถึงขั้นขึ้น “ไอ้” ใส่กัน จบข่าวเกาะโต๊ะ ปิดประตูดีลทุกช่องทาง
นั่นก็เป็นนายยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ “สายตรงดูไบ” เปิดฟลอร์ออกมาเอง
ต่อเนื่องกับปมแปร่งๆที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งท่าล่อเป้านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม เจาะยาง “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี”
ก็เป็น “รายงานข่าว” ที่ไม่ระบุ “ตัวตน” คนให้ข่าว
แต่พอ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ออกบอกปัดข่าวลือ ยืนยัน ป.ป.ช.ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ใคร
นายชัชชาติสบช่องเคลมทันที ขอบคุณ ป.ป.ช.ที่ไม่เป็นเครื่องมือทุบตัวเอง
หรือแม้แต่การโกอินเตอร์ของ “น้องปู” อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เพิ่งได้งานใหม่ นั่งแท่นเป็นประธานบอร์ดท่าเรือ เมืองซัวเถา ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ก็เป็นความตั้งใจของทีม “นายใหญ่” ที่ประโคมข่าวมาถึงเมืองไทย
เบิ้ลบลัฟโชว์เพาเวอร์ข่มรัฐบาล คสช.
สรุปมันก็คือเหลี่ยมของโคตรเซียนการตลาด ชิงเป็นฝ่าย “กำหนดกระแส”
แห่เกม “ต้อน” ฝ่ายท็อปบูตเข้าอยู่ในวงล้อมตะลุมบอน
แต่บังเอิญเขี้ยวมันทันกันแล้ว ตามรูปเกมที่ฝั่งรัฐบาล คสช.ก็ “จำกัดวงปะทะ” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ “บิ๊กป้อม” ที่เป็นด่านหน้าโซ้ยกับเกมชวนทะเลาะของ “ทักษิณ”
ทำให้ “นายใหญ่” ตีกินได้แค่แห่กระแสเบิ้ลบลัฟ “พี่ใหญ่”
กับสภาพ “เป้าล่อ” ที่ “แผลสด” ของ “บิ๊กป้อม” กลายเป็น “แผลเป็น”
ไม่มี “บอบช้ำ” ไปกว่านี้อีกแล้ว
ในขณะที่ “เป้าจริง” อย่าง “นายกฯลุงตู่” คุมตัวเองอยู่ในโซน “ปลอดภัย” ในโหมดของการเน้นเนื้อหาสาระ “เนื้องาน” มากกว่าตะลุมบอนเกมการเมือง
กับฉากตามท้องเรื่อง นายกฯปีนหลังคาซ่อมบ้านเหยื่อพายุโซนร้อนปาบึก ลงเยี่ยมประชาชนปักษ์ใต้ ในสถานการณ์ที่สะท้อนมาตรฐานการบริหารจัดการภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จำกัดวงความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้น้อยที่สุด
นับเป็นจุดที่เพิ่มคะแนนบวกให้รัฐบาล “ลุงตู่” ตามเนื้อผ้า
และที่คุยกัน 3 วัน 3 คืนไม่จบ นั่นคือผลงานโบแดงที่สหภาพยุโรป (อียู) ปลด “ใบเหลือง” การทำประมงไอยูยู หรือการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมของไทย
เป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้รับการพิจารณาในรอบนี้
ถือเป็นเรื่องที่พวกหมั่นไส้ยังเหน็บแนมไม่ออก ต้องยอมยกเครดิตให้กับความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล “ลุงตู่” ที่กอบกู้ปมหมักหมมมาหลายรัฐบาลจนโดนแบน โดยเฉพาะการสางปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงๆจังๆมาตลอด 2–3 ปี
มันคือ “เนื้องาน” ที่สัมผัสจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม
หักล้างกับคำติฉินนินทาของนักการเมืองที่ตีปี๊บปลุกอุปาทานหมู่ รัฐบาล คสช.ไร้ผลงาน
สถานการณ์เทียบเคียงกันได้ชัดๆ ระหว่างรัฐบาล “ลุงตู่” ที่เน้นเนื้องานตามภารกิจประคองประเทศห้วงเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตในทางยาวๆ กับนักการเมืองที่จ้องชิงเหลี่ยมพลิกขั้วอำนาจในเกมเลือกตั้ง
คะแนนความตั้งใจของ “นายกฯลุงตู่” เริ่มส่งผลตามเนื้อผ้า
นั่นยังไม่นับรายการเดินหน้าสะสมต้นทุนหน้าตัก ตามโปรแกรมครม.สัญจรนัดประเดิมศักราช 2562 “นายกฯลุงตู่” ขนคณะชุดใหญ่ขึ้นเหนือไปประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่–ลำปาง
บุกทะลวงฐานที่มั่นตระกูล “ชินวัตร”
จัดคิวบริหารราชการเนียนไปกับบริหารแต้มการเมือง ตุนคะแนนไม่หยุด.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: