PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ภาพที่เห็นแย้งข่าวลือ

ฉากระทึกบีบหัวใจ กระตุกต่อมเสียวกันในที

ตามปรากฏการณ์ช่วงสายของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.มงคล ทองเนื้อห้า สารวัตรป้องกันการปราบปราม สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ปริญญา เหลืออุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ให้เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ

ภายหลังจากนายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค ได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียว่าจะมีการแก้ไขการตั้งโต๊ะหมู่บูชาและพระฉายาลักษณ์ ที่มีความผิดพลาด

ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ปมความไม่เหมาะสม

ถัดมาอีกไม่กี่ชั่วโมง ช่วงบ่ายพระเอกตามท้องเรื่องอย่าง “เสี่ยป๋อม” ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ก็โผล่มาปรากฏตัว หลังหายหน้าไปตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์

ในบทยกมือไหว้ น้อมรับพระราชโองการ

ยืนยัน จะต้องเดินหน้าสู้สนามเลือกตั้ง ลงพื้นที่หาเสียงให้เร็วที่สุด

ตามจังหวะที่นักข่าวลอบสังเกตอาการเพื่อนร่วมพรรค ทษช.สะดุ้ง ส่งสายตามองหน้ากันเป็นนัย

ซ่อนอารมณ์หวั่นไหวไว้ไม่มิด

ที่แน่ๆในสถานการณ์ที่พวกระดับเซียนก็อาศัยใช้วิชา “กำบังกาย” จับทางมวยเก๋าอย่าง “เดอะอ๋อย” นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ “เด้งเชือก” อ้ำๆอึ้งๆ ย้ำไม่ได้ร่วมในเหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ไม่อยู่ในสถานะพูดอะไรได้

ในจังหวะที่ “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ มือเศรษฐกิจคนดังของทีมดูไบ ก็กระโดดเกาะขบวน “เดอะอ๋อย” ออกตัวล้อฟรี ไม่ได้ไปร่วมแจม “ช็อตอันตราย” เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์เหมือนกัน

ขาใหญ่ มวยเก๋า เด้งเชือก ตีกรรเชียงกันฝุ่นตลบ

โดยมีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมชงให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯบัญชีพรรคขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2)

ค่าย “ทักษิณชัวร์” เหมือนมวย “โดนนับ” ไม่อยู่ในอาการที่จะชกต่อ

ลุ้นโดนน็อก “ยุบพรรค” มากกว่าลุ้นเลือกตั้ง

โดยอาการ “เมาหมัด” ยังลามไปถึง “สาขาหลัก” อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ต้องออกแถลงการณ์ ในนาม “สำนักเลขาธิการพรรค” ขอให้นักการเมืองและผู้สมัครของพรรคงดการแสดงความเห็นใดๆเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งเรื่องของพรรคการเมืองอื่นๆ

ในทุกรูปแบบของการสื่อสาร

ทีมเอ “นายใหญ่” ก็ต้อง “ก้มหลบต่ำ” ซ่อนปลายคาง

อาการ สู้ไป ลุ้นไป เสียวไป

สถานการณ์ “ลูกผีลูกคน” ของมวยค่ายดูไบ ไม่มีเซียนพนันกล้าแทง

เปรียบเทียบกับคู่แข่งชิงแชมป์อย่างค่ายพลังประชารัฐที่คึกเหมือนมวยได้น้ำ

ตามลีลาไม่บุกผลีผลาม นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ต้องคิดหลายตลบ กับการดึง “นายกฯลุงตู่”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปช่วย “เชียร์แขก” หาเสียงนอกเวลาราชการ

แหยงเสียงโห่ฮาข้อหาเอาเปรียบ เสี่ยงเสียมากกว่าได้

แต่จุดสำคัญมันอยู่อีกด้านหนึ่ง โฟกัสไปที่จังหวะการวิ่งสู้ฟัดของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่ถอยฉากดัน “ลุงตู่” โชว์เดี่ยว” ในลิสต์นายกฯพลังประชารัฐ

พร้อมๆกับปฏิบัติการใส่เกียร์ห้า ถอดทิ้ง “เกียร์ว่าง”

เดินสายไล่ขันนอตกระทรวงคมนาคม เร่งเครื่องประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ เพื่ออัดเม็ดเงินดันพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ต่อเนื่องกับก่อนหน้านี้ก็ไล่ขันนอตหน่วยงานกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งเครื่องหนีประเทศเวียดนาม

ไล่ตรวจการบ้านกระทรวงการคลัง เร่งการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สั่งกระทรวงพาณิชย์ให้เตรียมความพร้อม ในการที่ประเทศไทยจะเข้าเป็นสมาชิกในความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)

บินไปญี่ปุ่น โรดโชว์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

“สมคิด” ในบทกัปตันทีมเศรษฐกิจ เดินสายทั้งนอกทั้งในประเทศ ขับเคลื่อนเครื่องยนต์เศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจ “นักลงทุน” กลไกสำคัญสุดในการวางพื้นฐานการพัฒนาประเทศระยะยาว

ตอกย้ำ “มุมบวก” การไปต่อของทีม “นายกฯลุงตู่” เพื่อความต่อเนื่อง

เรื่องของเรื่อง เทียบน้ำหนักกับข่าวลือปฏิวัติ กระแสล้มกระดานเลือกตั้ง ที่สวนทางโดยสิ้นเชิงกับจังหวะทีมหนุน “ลุงตู่” กำลังเร่งโกยแต้มที่ “ทักษิณ” ทำหล่นจากเซอร์ไพรส์ใหญ่

ได้เหลี่ยมขี่คอทีมดูไบที่พลาดล้มหัวคะมำ

ถ้าอำนาจคุมเกมอยู่กับผู้นำ คสช. ไม่เลือกตั้ง 24 มีนาคม ก็เมาแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: