มีเสียงเตือนมานานว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561
วางมาตรการเข้มในการกลั่นกรองบุคคลเข้าสู่วงจรอำนาจผ่านการเลือกตั้ง บทบัญญัติแต่ละมาตรามีความสำคัญ โดยเฉพาะคุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส.ส. ส.ว. นายกรัฐมนตรี และ ครม.
ต้องใส่เครื่องกรอง ร่อนตะแกรงกันหลายชั้น ด้วยความคาดหวังที่จะให้ได้คนดี เข้ามาทำงานให้ชาติบ้านเมือง
ป้องกันคนไม่ดี ที่มีประวัติด่างพร้อย มีคราบสกปรกพัวพันกับการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ให้เข้ามามีอำนาจ
ถึงขนาดมีการตั้งฉายายกย่องกันว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง
และแน่นอน เมื่อกฎกติกากำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะก้าวเข้ามาสู่อำนาจทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารไว้เข้มงวดมากเท่าไหร่
ในทางกลับกันก็ย่อมเป็นอุปสรรคขวากหนามกับบุคคลที่จะโดดเข้ามาสู่วงจรอำนาจมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ถ้าไม่ศึกษาข้อกฎหมายให้แตกฉาน ตีความไม่ละเอียด หรือรู้แต่จงใจหมกเม็ด รวมไปถึงเลินเล่อ สะเพร่า เฟอะฟะ ก็อาจทำให้ตกม้าตายได้ง่ายๆ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นนักการเมือง
รุ่นเก๋าเขี้ยวลากดิน หรือนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรงขนาดไหนก็ตาม
เหมือนอย่างตอนนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคอนาคตใหม่ กำลังเผชิญการตรวจสอบครั้งสำคัญจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กรณีนักร้อง (เรียน) แห่งยุค ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ ธนาธร ขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด
เข้าง่ามลักษณะต้องห้ามเป็นผู้สมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) คือ เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ
ล่าสุด กกต. พิจารณาหลักฐานเบื้องต้นพบว่า ธนาธร เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3)
กรณีเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ จำนวน 675,000 หุ้น
จึงมีมติแจ้งข้อกล่าวหาแก่ ธนาธร ให้มาชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน!!!
ส่วน ธนาธร ที่อยู่ระหว่างทัวร์ยุโรป โพสต์เฟซบุ๊กบอกแฟนคลับ ได้รับแจ้งจากเมืองไทยให้รีบกลับมาเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อันไม่คาดคิด ยืนยันยังมีกำลังใจที่แข็งแรง และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ จะรีบกลับมาแก้ข้อกล่าวหาด่วนจี๋
ก่อนตบท้ายตามฟอร์มว่ากรณีนี้เป็นคดีที่มีความมุ่งหวังทำลายล้างทางการเมือง
งานนี้ “พ่อลูกอิน” เชื่อว่า ถ้า“ธนาธร” โอนหุ้นสื่อพ้นตัว ถูกต้องตรงตามกติกาเป๊ะๆ ไม่มีปัญหาหมกเม็ดใดๆ ก็คงไม่มีใครทำให้สะเทือนผิวได้แน่นอน
แต่ถ้าบังเอิญจงใจซิกแซ็ก ตุกติก ทำผิดจริง ก็มีสิทธิโดน กกต.แจกใบส้ม ชวดเก้าอี้ ส.ส. แถมต้องถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งอีกต่างหาก
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเนื้อผ้า เพราะไม่มีใครใหญ่เกินกฎหมาย!!!
“พ่อลูกอิน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น