PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562

สกัดแผนร้าย

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังอึมครึม การจับขั้วตั้งรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน ต้องชักตะพานแหงนเถ่อรอต่อไป

เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังทำงานไม่สะเด็ดน้ำ อยู่ในขั้นพิจารณาเรื่องร้องเรียนทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อแจกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ใบดำ ว่าที่ ส.ส.ที่มีพฤติกรรมหาเสียงผิดกฎหมาย

ยิ่งการเลือกตั้งคราวนี้ เป็นไปตามกติกาใหม่ ระบบจัดสรรปันส่วนผสม การคำนวณตัวเลข ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะเริ่มเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อมีประกาศรับรองผล ส.ส.ระบบเขต 350 เขต รู้คะแนนรวมแต่ละพรรคชัดเจนซะก่อน

ตามกติการัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำหนดให้การคำนวณ จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องนำคะแนนของทุกพรรคมาเป็นตัวตั้ง หารด้วย 500 เพื่อหาค่าเฉลี่ยคะแนนฐาน ต่อ ส.ส.1 คน

ก่อนเอาคะแนนฐานที่ได้ ไปหารคะแนนรวมของแต่ละพรรค เพื่อหาจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมี

ได้ผลลัพธ์เท่าไหร่ ก็ต้องเอาไปเป็นตัวตั้ง แล้วลบด้วยจำนวน ส.ส.ระบบเขตของพรรคนั้นๆ ถ้าลบกันแล้วเหลือส่วนต่างเท่าไหร่ ก็คือจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่พรรคนั้นจะได้รับเพื่อให้ครบจำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้นพึงมี

ส่วนพรรคที่ได้ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง เกินกว่าจำนวน ส.ส.ที่พึงมี จะไม่ได้ ส.ส.จากระบบบัญชีรายชื่อ

เหมือนอย่างพรรคเพื่อไทย ที่คำนวณจำนวน ส.ส.พึงมี คือประมาณ 111 คน แต่ได้ ส.ส.ระบบเขตมาแล้ว 137 คน จึงไม่ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว

แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะยังมีสูตรคำนวณเฉลี่ยตัวเลข ในรอบเกลี่ยคะแนนอีก 2-3 ชั้น ว่ากันถึงขั้นจุดทศนิยมตามกติการัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ต้องการให้ทุกคะแนนเสียงมีคุณค่า

จึงกลายเป็นปัญหาว่า กกต.ควรใช้สูตรไหนคำนวณจึงจะเป็นธรรมที่สุด เพราะมีกระแสข่าวพรรคเล็ก 10 กว่าพรรค ที่มีฐานคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่าพรรคใหญ่ จะได้สะง่อม ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไปพรรคละคนสองคน

แต่ กกต.เถียงกันยังไม่ทันจบ ก็โดนประเคนข้อหาไม่เป็นกลาง เอนเอียงเอื้อประโยชน์ให้บางฝ่ายไปซะงั้น

สุดท้ายเลยต้องหาทางออกด้วยการเชิญอดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมาหารือถึงเจตนารมณ์ระบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อเคลียร์เรื่องสูตรคำนวณให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง

จากปัญหาสารพันในการจัดเลือกตั้ง ตั้งแต่การลงคะแนน บัตรเกิน บัตรขาด การนับคะแนนที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ จนมาถึงเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีนุงตุงนังไปหมด

จึงเข้าทางเกมของคนบางกลุ่มที่ใช้สื่อโซเชียล ละเลงข้อมูลจริงบางส่วน ผสมข้อมูลเท็จ เพื่อทำให้ผู้คนเชื่อว่า กกต.ไม่เป็นกลาง ไม่สุจริต เที่ยงธรรม ชี้นำว่าการเลือกตั้งสกปรก เลวร้ายสิ้นดี???

ใช้วาทกรรม “ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการสืบทอดอำนาจ” ปลุกกระแสตอกลิ่มให้เกิดการแบ่งฝ่าย

จงใจเดินเกมเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถอดถอน กกต. สร้างแรงกระเพื่อมในห้วงใกล้มีพิธีมหามงคลของประเทศ

จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่รู้ตื้นลึกหนาบางของแผนร้ายครั้งนี้ ต้องออกมากระตุกสังคมให้ตระหนักรู้เท่าทันกลเกมอุบาทว์

พร้อมส่งเสียงคำรามถึงนักการเมืองบางขั้วบางคน ที่เดินแผนสร้างความแตกแยก หวังให้เกิดม็อบปั่นป่วน

รวมทั้งปราม พวกซ้ายจัดดัดจริตที่มีแนวคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้หยุดการกระทำดังกล่าว

ถึงเวลาที่คนไทยต้องคิดไตร่ตรอง จะยอมเป็นเหยื่อนักการเมืองพรรค์นี้อีกรึเปล่า???

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: