PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ทางสองแพร่ง


การตัดสินใจของคนพรรคประชาธิปัตย์ ในการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ วันนี้ (15 พ.ค.) ถือเป็นหัวเลี้ยว หัวต่อครั้งสำคัญของพรรคการเมืองเก่าแก่อายุ 73 ปี

เพราะเป็นการเลือกประมุขพรรคคนใหม่ เพื่อมาปฏิรูปพรรค ปรับแนวทางการทำงานให้พรรคกลับมาเป็นที่ยอมรับของประชาชน

หลังจาก “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะนำทัพลงทำศึกเลือกตั้ง พ่ายแพ้ หน้าแตกสาหัสยับเยินชนิดหมอไม่รับเย็บ

จากที่เคยเป็นพรรคการเมืองขั้วใหญ่ มี ส.ส.100 กว่าที่นั่ง แต่งวดนี้ตีฝ่าด่านมะขามเตี้ยเข้ามาแบบหืดขึ้นคอ ได้ ส.ส.ระบบเขต แค่ 33 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน เหลือแค่ 52 ที่นั่ง

ลดลงไปครึ่งต่อครึ่ง สะท้อนชัดว่าคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ตกต่ำลงไปจมกระเบื้อง!!!

ดังนั้น การเลือกผู้นำพรรค และ ทีมบริหารพรรคชุดใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แสดงฝีมือในการฟื้นฟูปฏิสังขรณ์พรรค ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน และสำคัญยิ่งต่ออนาคตของสถาบันการเมืองแห่งนี้

โดยมีผู้ประกาศตัวอาสาเข้ามาเป็นหัวหอกสังคายนาฟื้นฟูพรรคให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง รวมทั้งสิ้น 4 พระหน่อ ไล่เรียงตามความเก๋า ได้แก่

“อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ที่จะขอนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเต็มตัว โดยผนึกกำลังกับ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค เป็นคู่หูชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรค

“หล่อโย่ง” กรณ์ จาติกวณิช ส.ส. บัญชีรายชื่อ ขอวัดบารมี ชิงขึ้นชั้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยมี ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ร่วมทีมขอเป็นเลขาธิการพรรค

“หล่อเล็ก” อภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ขอลุ้นนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค โดยมี สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง แกนนำสาย กปปส. คั่วเก้าอี้เลขาธิการพรรค

ส่วนรายสุดท้าย “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ยอมตกขบวน ขอชิงเก้าอี้ผู้นำพรรคด้วยอีกคน แต่ยังอุบไต๋ทีมงานที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรค

ทั้งนี้ ตามกฎกติกาข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนโหวตเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หรือเรียกโก้ๆว่าโหวตเตอร์ มีจำนวน 307 คน

ประกอบด้วย ส.ส.ระบบเขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามาหมาดๆ 52 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มสำคัญ เพราะข้อบังคับพรรค ให้น้ำหนักคะแนนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโหวตเตอร์อีก 255 คน จาก 19 กลุ่ม ได้แก่ อดีต ส.ส. และบรรดาตัวแทนสาขาพรรค มีน้ำหนักคะแนนอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์

ด้วยกลไกตามข้อบังคับพรรคเช่นนี้ ใครกุมเสียง ส.ส.มากกว่าก็ย่อมได้เปรียบ

ล่าสุด “พ่อลูกอิน” จับกระแสแรงสนับสนุนจากกลุ่มก๊วนในพรรค เต็งหนึ่งยังเป็น จุรินทร์ ที่มีผู้อาวุโส อย่าง ชวน หลีกภัย และ บัญญัติ บรรทัดฐาน ทำหน้าที่เป็นป๋าดันสุดตัว

ขณะที่ พีระพันธุ์ ขยับแซงโค้งขึ้นมาเป็นคู่ชิงดำ ด้วยแรงหนุนจากเครือข่าย “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ

แต่สุดท้ายไม่ว่าใครเข้าวิน ยังต้องตามลุ้นช็อตสำคัญ คือ การนำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล

เพราะแว่วว่า กก.บห.ชุดใหม่ จะวางคิวโหวตชี้ขาดทันที ออกหัวหรือก้อย เดี๋ยวก็รู้ จุ๊กกรูๆ!!!

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: