PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

"ปิดสวิตช์” เกมพลิกขั้ว


135 เสียง “ปิดสวิตช์” ฝ่ายจ้องพลิกขั้วอำนาจ

ตัวเลขกลมๆภายหลัง 11 พรรคเล็ก “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” มอบหนังสือร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนง เทแต้มให้ขั้วพลังประชารัฐ หนุน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีตั๋วเบิ้ลนายกรัฐมนตรีต่อ

เอาไปนับรวมกับต้นทุนหน้าตักพรรคพลังประชารัฐ 115 เสียง บวกกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 5 เสียง พรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน 1 เสียง ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง

กับอีก 3 เสียงพรรคพลังท้องถิ่นไทของนายชัชวาลล์ คงอุดม ที่ประกาศชัดเทให้ “ลุงตู่” ตั้งแต่หัววัน

สรุปเสียง ส.ส.ขั้วพลังประชารัฐได้ 135 ที่นั่ง เมื่อเอามาบวกร่วมกับฐานต้นทุนหน้าตัก 250 ส.ว.ที่ล่าสุดได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว เปิดหน้ามาส่วนใหญ่แทบทั้งหมดอยู่ในขุมข่ายคนหน้าเดิม ย้ายจาก ครม.และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับอดีตขุนทหาร บิ๊กตำรวจ ข้าราชการเกษียณ และบิ๊กกองทัพโดยตำแหน่ง

แน่นปึ้ก แทบไม่มีพวก “เฮี้ยว” แตกแถว

นั่นก็เท่ากับ 385 เสียงแน่นๆ เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภาหรือ 376 เสียง

ล็อกความชัวร์ โหวต พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกติกาบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ

ต่อให้พรรคการเมืองที่เหลือไปรวมแต้มกันหมดทุกพรรคมาโหวตสู้ ก็ไล่ไม่ทัน

และนั่นก็น่าจะแปรผันกับสถานการณ์โจทย์ปัญหาอีกช็อตของขั้วพลังประชารัฐที่ต้องรวมเสียง ส.ส.ให้ได้เกินครึ่งสภาผู้แทนราษฎรคือ 250 เสียง ท่ามกลางสภาวะ “ขั้วขึงพืด” เสียงปริ่มน้ำ

ตามอาการ “พรรคตัวแปร” ดึงเช็งต่อรอง จ้องฮุบกระทรวงเกรดเอ

แต่เมื่อทีมหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ล็อกสมการตัวเลขเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา

ยึดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้ได้

ตามฟอร์มทางการเมืองรู้ทางกันดี พลังอำนาจในการต่อรองย่อมไหลตามมาโดยอัตโนมัติ โดยสถานการณ์เกมแย่งจัดรัฐบาลแข่งกับทีมหนุน “นายกฯลุงตู่” ยากจนแทบไม่มีทางเป็นไปได้

“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-อนุทิน ชาญวีรกูล” ได้แค่ลุ้นกระแสแห่ในทางทฤษฎี

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ใครไม่เอากับพลังประชารัฐก็คือ “หลุด” ขั้วรัฐบาล

ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่รอลุ้นผลเลือกตั้งหัวหน้าพรรคกับกรรมการบริหารชุดใหม่

ในวันที่ 15 พฤษภาคม ผลจะออกมาอย่างไร หรือเหลี่ยมดึงเช็งของพรรคภูมิใจไทยที่ลากไปตัดสินใจวันที่ 20 พฤษภาคม จะออกมารูปแบบไหน

“ขายบ้าน” แทงหวยได้ ยังไงก็ต้องวิ่งโหนขบวนกับ “ลุงตู่”

ร่วมแจมแบบที่ได้อะไรก็ต้องคว้าไว้ก่อน

เพราะตามสถานการณ์มองโลกในแง่ร้ายสุดๆ ถ้ารวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ไม่ได้ “นายกฯลุงตู่” ยังถือไพ่เด็ดในมือลากรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปยุบสภา เลือกตั้งใหม่

“วัดใจ” พวกที่เพิ่งถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเกาะกระแสมาเป็น ส.ส.

วัดเสบียงกรังของป้อมค่ายต่างๆที่เพิ่งผ่านศึกมาไม่กี่เดือน

ว่ากันตามเงื่อนไขนี้ ไม่ใช่แค่เกมต่อรองโควตาของพรรคตัวแปรที่แทบไม่มีน้ำหนัก

จับทางจากอาการแปร่งๆของ “เฮียมิ่ง” นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ตามข่าวพยายามหลบสื่อมวลชนในวันไปรายงานตัวที่สภา

ท่ามกลางกระแสลูกพรรค “ชิ่ง” ไปหมดแล้ว

แนวโน้มสัตยาบัน “รัฐบาลลม” ของฝั่งประชาธิปไตยเพื่อ “ทักษิณ” ส่อสั่นคลอน ตามความชัดเจนที่ไหลไปทางฝั่งหนุน “นายกฯลุงตู่” เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

“งูเห่า” เลื้อยกันเพ่นพ่านแน่ ทั้งพรรคเพื่อไทย ค่ายอนาคตใหม่ แนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อ “ทักษิณ”

ตามธรรมชาติ ส.ส.ไม่อยากเหนื่อยเลือกตั้งใหม่ ต้องเลือกอยู่กับฝ่ายถืออำนาจและผลประโยชน์

ทั้งหมดทั้งปวงจับอาการจาก “โคตรเซียน” เบอร์ใหญ่ที่รู้แกว หมดโอกาสชิงพลิกขั้วจากเกมเลือกตั้ง

ในจังหวะต้องเปลี่ยนเกมใหม่ “นายใหญ่” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ตีปี๊บกระแสข่าวการดีลซื้อสโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ ทีมดังในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

เปิดพื้นที่ข่าวชิงกระแส เลี้ยงเรตติ้งกองเชียร์

ตามรูปการณ์ที่พรรคเพื่อไทยต้องนั่งเป็นฝ่ายค้าน แกนนำขาใหญ่ไม่ได้เป็น ส.ส.เพราะอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์หมด แนวร่วมอย่างทีมอนาคตใหม่ก็มีแต่ ส.ส.เด็ก “มือใหม่หัดขับ”

เกมในสภาส่อแพ้ขาด ต้องเขย่าเกมชิงพื้นที่กระแสนอกสภา.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: