PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562

กัดกันเละถือหุ้นสื่อแช่แข็งประเทศไทย1ปี

เลือกตั้งผ่านไป 94 วันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถจัดตั้ง “รัฐบาลผสม” ได้สำเร็จ ท่ามกลางการทะเลาะของนักการเมืองสองขั้ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังทำตัวชิวๆ เพราะไม่ว่าตั้งรัฐบาลช้าหรือเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เดือดร้อน ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ดี นี่คือ ผลเสียของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศและประชาชนอย่างรุนแรง มีข่าววงในว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลากยาว ไปตั้งรัฐบาลใหม่กลางเดือนกรกฎาคมโน่น ผลเสียตามมาก็คือ งบประมาณปี 2563 ที่จะต้องจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ต้องเลื่อนออกไปจนถึงสิ้นปี เท่ากับว่า “เศรษฐกิจประเทศไทยถูกแช่แข็งไป 1 ปี” ตลอดปีนี้ทั้งปีเลยทีเดียว เศร้าใจไหม

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็คือ เศรษฐกิจชะงักงัน จีดีพีหด การส่งออกติดลบ ก็ไม่รู้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 2 รัฐบาล จะรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจบ้างไหม

เมื่อการจัดตั้ง “รัฐบาลผสม 18 พรรค” เป็นไปอย่างล่าช้า ก็ยิ่งทำให้นักการเมืองทะเลาะกันมากขึ้น ฟัดกันมากขึ้น กัดกันมากขึ้น อย่างที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ เว็บไซต์ ทุกวันจนเบื่อหน่ายสุดๆ เรื่องล่าสุดที่ ฟัดกันแบบตะลุมบอน หรือ แบบหมาหมู่ ก็คือ เรื่องการถือหุ้นสื่อ ที่มีข้อห้ามใน รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ห้าม ส.ส. ส.ว. เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ไม่รู้คนร่างรัฐธรรมนูญรังเกียจอะไรสื่อนักหนา ประเทศที่เจริญแล้ว ไม่มีใครเขาห้าม

แต่เรื่อง ประวัตินักการเมืองฉาว เคยต้องคดีทุจริตคอร์รัปชัน มีพฤติกรรมผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย กลับไม่มี ส.ส. ส.ว. คนไหนออกมา คัดค้าน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน คนเช่นนี้จะเป็นตัวแทนที่ดีของประชาชนได้อย่างไร

คดีถือหุ้นสื่อเริ่มมาจาก คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่า ถือหุ้นสื่อ ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พักการทำหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว ทำให้ พรรคอนาคตใหม่ แก้เผ็ดฝ่ายรัฐบาลด้วยการยื่นคำร้องต่อ ประธานสภาผู้แทนฯ ให้ส่งเรื่องไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย คุณสมบัติของ ส.ส. 41 คนใน 5 พรรคร่วมรัฐบาล อาจมีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ถือหุ้นสื่อ เพื่อหวังให้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการทำหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว แบบเดียวกับ คุณธนาธร

พรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็โต้กลับด้วยการเตรียมยื่นให้สภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส.ส. 55 คนของ 7 พรรคฝ่ายค้าน โดยมี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 33 คน เข้าข่ายถือหุ้นสื่อ หวังให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการทำหน้าที่ ส.ส. เช่นเดียวกับ คุณธนาธร และล่าสุดก็ลามไปถึง ส.ว.อีก 21 คน

ก็เล่นการเมืองน้ำเน่ากันอยู่อย่างนี้ทุกวัน ไม่มี ส.ส. ส.ว. คนไหนสนใจปัญหาของประเทศที่มีอยู่มากมาย และความทุกข์ของประชาชน ที่กำลังเผชิญกับสภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำเค็ญ การค้าติดลบ กำลังซื้อติดลบ การส่งออกติดลบ เงินบาทแข็งโป๊กจนหัวร้างข้างแตกไปตามกัน ไม่มีใครพูดถึงสักแอะ แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีฐานะเป็น นายกรัฐมนตรี ของรัฐบาล คสช.ในปัจจุบัน ก็ไม่ได้คิดแก้ไขอะไร ทั้งที่ยังมีอำนาจเต็มๆ

เรื่อง “ห้ามถือหุ้นสื่อ” ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความคิดที่ล้าหลังของคนแก่ที่ไม่ทันโลก วันนี้ สื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ กำลังจะตายกันหมดแล้ว และ สื่อในนิยามใหม่ ที่เข้ามาแทนที่สื่อดั้งเดิมก็คือ สื่อออนไลน์ และ โซเชียลมีเดีย ถ้าเอา ข้อห้ามถือหุ้นสื่อ มาใช้ ผมว่า ส.ส. ส.ว.ผิดทั้งรัฐสภา เพราะทุกคนเป็นเจ้าของสื่อโซเชียลมีเดียทั้งนั้น รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย เห็นโพสต์ลง เฟซบุ๊ก กันทุกวัน

หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาแทน ในอนาคตประเทศไทยจะติดกับดักความล้าหลังนี้ รวมทั้ง อีกหลายกับดักในรัฐธรรมนูญ จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ล้าหลังในอาเซียน ไปในที่สุด.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

ไม่มีความคิดเห็น: