PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

แก๊งภาคกลางขาเป็นเด็กดีซัดสามมิตรดื้อด้าน

อนุชานิ่งหลังบิ๊กตู่ว้ากใส่ เพื่อไทยดาหน้าเยาะเย้ย ผีถึงป่าช้าแล้วอย่ามาโวย

แกนนำกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง พปชร.ขอเป็นตัวอย่างเด็กดี “สุชาติ” ทำใจไม่ตื๊อดื้อเอาเก้าอี้ ยังหนุน “บิ๊กตู่” เดินหน้าประเทศ เอ่ยวลีหล่อ ถ้าดื้อแล้วได้ขนมคงดื้อทั้งพรรค “สามมิตร” เริ่มแผ่วหลบฉาก “อนุชา” สงบปาก เพื่อไทยสะใจดาหน้าเยาะเย้ย “อนุสรณ์” เหน็บต่อรองตำแหน่งแย่งชามข้าวสะท้อนไร้ปฏิรูป “เจ๊ต้อย” แขวะ “ลุงตู่” เจอแค่โหมโรง ก็ทรุดแล้ว “สมคิด” เย้ยพวกหนุนสืบทอดอำนาจต้องยอมรับสภาพ ผีถึงป่าช้าอย่าโวยวาย “จาตุรนต์” เชื่อ “ประยุทธ์” เพลินอำนาจรัฐบาลอายุสั้นกว่าที่คิด ขณะที่ ปชป.แฮปปี้ “จุรินทร์” ยันลูกพระแม่ธรณีบีบมวยผมเป็นหนึ่งเดียวไร้ขัดแย้ง ชี้เป้าปั่นผลงานฟื้นพรรค ขณะที่ผลโพลระบุคนโคตรเบื่อการเมือง แถมคาใจกระบวนการตั้งรัฐบาลมาราธอน

หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม 20 ที่ญี่ปุ่น ระบุถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ที่เกิดความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐว่า ให้หยุดได้แล้ว ทุกอย่างจบแล้ว นายกฯตัดสินใจเป็นผู้รับผิดชอบ วันหน้าไม่พอใจจะไปไหนก็แล้วแต่ แต่ขอร้องให้อยู่กันไปก่อน ล่าสุดทำให้ความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐเริ่มแผ่วลงทันที

“สุชาติ” ตัดใจไร้เก้าอี้ยังหนุน “บิ๊กตู่”

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี แกนนำภาคกลางพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวหลุดจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน และความเคลื่อนไหวของบางกลุ่มเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีภายในโควตาพรรคพลังประชารัฐว่า ต้องยอมรับว่าเหตุผลที่ตนย้ายจากพรรคพลังชล มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่มาเพื่อมีตำแหน่งตรงนั้นตรงนี้แต่อย่างใด จึงขอวิงวอนบางกลุ่มที่ยังเคลื่อนไหวให้คำนึงถึงความเชื่อมั่นในการเดินหน้าประเทศ ปัญหาภายในพรรคที่เป็นอยู่นี้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นผู้นำพรรคและมีหน้าที่โดยตรงต้องลงมาแก้ปัญหาความไม่ลงรอยต่างๆในพรรคด้วยตัวเอง

เป็นเด็กดีดื้อได้ขนมคงวุ่นทั้งพรรค

นายสุชาติกล่าวอีกว่า ส่วนทางออกของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น นายกฯมีอำนาจเต็มเพียงคนเดียวเท่านั้นในการพิจารณา เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำจบหมดแล้ว บางคนอาจจะได้กระทรวงที่ไม่ต้องการ แต่ถึงอย่างไรตนเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าใครจะอยู่ตรงไหนสามารถทำงานได้ทั้งสิ้น วันนี้เราต้องเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ และความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มชลบุรีไม่มีปัญหา และกลุ่มภาคกลางได้คุยกันแล้วว่าต้องการให้นายกฯทำงานและตั้ง ครม.ได้ เราเป็นเด็กดี ถ้าเป็นเด็กดื้อแล้วได้ขนม คงจะดื้อกันทั้งพรรค ถ้าเป็นแบบนั้นถือว่าเรียกร้องผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวอย่างเดียว

“สามมิตร” ขอนิ่งหลังนายกฯฮึ่มใส่

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ขอสัมภาษณ์นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตรที่มีกระแสข่าวหลุดจากตำแหน่ง รมช.คลัง ตามที่เคยตกลงไว้ก่อนหน้า และเป็นคนออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยินดีถูกปรับออก แต่ขออย่าเปลี่ยนแปลงโควตาของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ปรากฏว่านายอนุชาตอบปฏิเสธว่า “ขอยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆในตอนนี้”“ดอน” เขินคุยแต่จี 20 ไม่รู้อนาคต

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวจะได้กลับมาเป็น รมว.ต่างประเทศอีกครั้งในรัฐบาลใหม่ว่า ตอบไม่ได้ เพราะต้องไปรออะไรต่ออะไรก่อน ณ วันนี้ คุยแต่เรื่องจี 20 และ อาเซียนเท่านั้น อะไรที่เราทำมาด้านอาเซียนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อถามว่าในการประชุมอาเซียนช่วงปลายปี 2562 จะยังอยู่ในตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบงานหรือไม่ นายดอนตอบว่า เรื่องนี้ต้องดูกันต่อไป แต่เราทำมาแล้ว 2 รอบที่ผ่านมา โดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการจัดการ แต่เป็นเรื่องเนื้อหาที่มีความแปลกใหม่ เรียกรวมๆว่า ถักทอ ร้อยรัด ต่อยอด เมื่อถามว่า ถ้าเช่นนั้นต้องอยู่ถักทอต่อ นายดอนตอบว่า ต้องรอดูต่อไป อันนี้ตนไม่ทราบ เมื่อถามอีกว่า ต้องเข้าไปกรอกประวัติรัฐมนตรีเมื่อไหร่ นายดอนตอบอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่ทราบ

พท.สับแย่งชามข้าวสะท้อนปฏิรูป

ด้านฝ่ายค้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามมิตรและกลุ่ม ส.ส.ภาคกลางพรรคพลังประชารัฐ ไม่พอใจที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ปรับเปลี่ยนโผ ครม.ว่า เหตุที่ตั้ง ครม.ไม่ได้ทั้งที่พ้นการเลือกตั้งมาเกือบ 4 เดือน ยังแย่งชามข้าวกันไม่จบถือเป็นความเสื่อม อย่าพูดว่าการปฏิรูปการเมืองยังไม่สำเร็จเพราะยังไม่เคยได้ปฏิรูปอะไรเลย สงสารประชาชนที่ต้องติดหล่มอยู่ในการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน ที่นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ ออกมาตั้งโต๊ะขู่ถ้ารังแกกันไม่เลิกจะแฉกลับให้เป็นเรื่องระดับชาติ ออกมาทวงสัจจะชายชาติทหารจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้ว่าความฝันของนายอนุชาจะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ว่าครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะสะกดคำว่าสัจจะถูกหรือไม่ ประชาชนต่างรู้สึกสิ้นหวัง คนที่รับกรรมไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นประเทศชาติและประชาชนที่จะต้องอยู่ในภาวะมืดมนไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ ขอให้หยุดแย่งชามข้าวกันแล้วมาแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร่งด่วน

เย้ย “บิ๊กตู่” เจอแค่โหมโรมก็ทรุดแล้ว

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯระบุขอให้อย่าจ้องแต่จะล้มรัฐบาล หากเรื่องไหนทำให้เกิดความยั่งยืนของประเทศควรจะยกมือพร้อมกันทั้งสภาฯว่า รัฐบาลจะล้มหรือไม่อยู่ที่การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งประชาชนให้การยอมรับและอยากให้รัฐบาลอยู่เพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่ การจะให้พรรคฝ่ายค้านยกมือสนับสนุนรัฐบาลอยู่ที่การกระทำของ ครม. และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทำดีทำถูกต้องหรือไม่ ฝ่ายค้านต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เสนอญัตติด่วนให้สภาฯตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาหาข้อเท็จจริงว่าการสรรหา ส.ว. พล.อ.ประยุทธ์จะยอมรับได้ไหมหรือจะขัดขวางไม่ให้สภาฯทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ แค่เพียงโหมโรง พล.อ.ประยุทธ์ก็แสดงทีท่าอ่อนใจ ฉากต่อไปรับรองเข้มข้นกว่านี้ พล.อ.ประยุทธ์จะประจักษ์ว่า การเป็นนายกฯสมัยที่ 2 อาจจะยากกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา

“สมคิด” แขวะผีดัน “ลุงตู่” อย่าโวยวาย

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความขัดแย้งภายในพรรคแกนนำรัฐบาลควรหยุดได้แล้ว วันนี้ประชาชนเดือดร้อนบางภาคฝนขาดช่วง บางภาคศัตรูพืชทำลายพืชผลทางการเกษตร แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยแก้ปัญหา นายกฯควรรีบดำเนินการเรื่องโผ ครม.ให้เรียบร้อยโดยเร็ว หากยังไม่เสร็จสิ้นปล่อยให้มีการต่อรองไม่สิ้นสุดจะไม่มีคนไปแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเสียที ภาพการแย่งชิงตำแหน่งที่ออกมาประชาชนเอือมระอา ทำให้ภาพรวมของการเมืองเสียหายไปด้วย ดังนั้นเมื่อคิดจะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจแล้วต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นจะมาโวยวายกันทำไม ตอนนี้เป็นเหมือนผีถึงป่าช้าไม่เผาก็ต้องฝัง ทำอะไรไม่ได้ทำงานให้ประชาชนดีกว่า

“จาตุรนต์” หวัง รบ.อายุสั้นกว่าที่คิด

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตที่ปรึกษายุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า โค้งสุดท้ายก่อนที่จะมี ครม.ภาพการต่อรองแก่งแย่งผลประโยชน์กันสูงมาก ทำให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ยากที่จะบริหาร แม้จะเคยวิจารณ์ว่า การล้มของรัฐบาลไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่จากภาพความขัดแย้งของ พ.อ.ประยุทธ์กับนักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เห็นว่าบางทีรัฐบาลอาจอยู่ได้สั้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และรัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่มีที่มาจากความไม่ชอบธรรมในการจัด ครม.มองการต่อรองผลประโยชน์เป็นหลัก ต่างฝ่ายต่างอาจมองไม่เห็นความจำเป็นของอีกฝ่าย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจเห็นว่าตัวเองมีกองทัพและมี ส.ว. 250 เสียงสนับสนุน ทำให้ถือไพ่เหนือกว่า แต่พรรคการเมืองอื่นอาจเห็นว่ารัฐบาลเองต้องมีเสียงในสภาฯเกินกึ่งหนึ่ง เมื่อเสียงปริ่มน้ำมากจึงทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองก็มีความสำคัญเขาจึงต่อรองเอาสิ่งที่ต้องการ

อ่านขาด “ประยุทธ์” หลงใหลอำนาจ

นายจาตุรนต์กล่าวว่า การต่อรองไม่มีการพูดเรื่องนโยบาย ไม่ได้พูดถึงความเหมาะสมของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องที่ดูตามความใกล้ชิดอิทธิพลบารมีของบุคคลในแต่ละฝ่าย เท่ากับเป็นรัฐบาลที่เราจะสะสมความไม่ชอบธรรมเต็มไปหมด เมื่อรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมีความขัดแย้งเต็มไปหมดอย่างนี้ จะทำให้คนเห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่มีเสถียรภาพ พล.อ.ประยุทธ์เลยกลายเป็นปัญหาให้พรรคแกนนำรัฐบาล ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหาระหว่างตัวเองกับพรรคพลังประชารัฐอย่างไร ทำอย่างไรที่จะประนีประนอมพรรคร่วมรัฐบาลอื่นไว้ให้ได้ แต่ทั้งหมดน่าเศร้าใจตรงที่ว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับนโยบายและการแก้ไขปัญหาประเทศ มีแต่เรื่องจะทำให้รัฐบาลอยู่ได้อย่างไร ต่อรองผลประโยชน์กันเป็นหลัก ถามว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เกิดสภาพแบบนี้โดยที่ยังไม่สรุปเรื่อง ครม.เป็นเพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังสนุกสนานกับการใช้อำนาจ ในฐานะ นายกฯจากการรัฐประหารและอำนาจของ คสช.

“ธนาธร” ซัดล้าหลังฝังหัวต้านม็อบ

ที่ร้านหนังสือบุ๊คโคล่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกิจกรรมเสวนาหนังสือหัวข้อ “แอนิมอลฟาร์มและดิสโทเปียอื่นๆ” โดยนายธนาธรกล่าวตอนหนึ่งว่า หนังสือเรื่องแอนิมอล ฟาร์ม อ่านนานมากแล้ว เป็นหนึ่งในหนังสือที่นักกิจกรรม คนทำกิจกรรมการเมืองต้องอ่าน อยากยกตัวอย่างชุดความคิดที่ล้าหลังมากกับโลกสมัยใหม่ แต่กำลังเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจทำได้สำเร็จในสังคมไทย นั่นคือเขาพยายามบอกว่าการชุมนุมคือ ความวุ่นวาย นี่เป็นสิ่งที่สังคมไทยรู้สึก ทั้งที่จริงๆแล้วการชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้มีอำนาจด้วย เราไม่รู้หรอกว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในกฎเกณฑ์การอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมีความเปลี่ยนแปลง ระบอบประชาธิปไตยเองก็มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน

“จุรินทร์” ยัน ปชป. เป็นหนึ่งไม่ขัดแย้ง

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บีช รีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสรุปการสัมมนากรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทุกคนรับรู้ยุทธศาสตร์ของพรรคที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วย 3 กลไกหลัก คือ กลไกของรัฐมนตรีของพรรค กลไกของ ส.ส.พรรค และกลไกกรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิกพรรคยืนยันว่า พรรคมีความเป็นเอกภาพ ไม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย สัมมนา 3 วัน 2 คืน สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์รวมกันเป็นหนึ่งทำงานเป็นทีมอเวนเจอร์สประชาธิปัตย์ภายใต้อุดมการณ์ทันสมัย

ไร้เวลาฮันนีมูนเร่งแก้ ศก.ฐานราก

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม. ลงมาแล้ว พรรคจะนัดประชุมรัฐมนตรีทุกเย็นวันจันทร์ เพื่อตรวจการบ้านซักซ้อมความเข้าใจก่อนประชุม ครม. ในวันอังคาร และจะเดินสายลงพื้นที่ทั่วประเทศรับฟังปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและสินค้าเกษตร แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นปัจจัยสำคัญที่พรรคตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล วันที่ 1 ก.ค. ตนและคณะพบกับกลุ่มสมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง ผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้ส่งออกมันสำปะหลังทั่วประเทศ 45 จังหวัดที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปพบเกษตรกรชาวสวนลำไย จ.ลำพูน รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูน ประชาชนคาดหวังให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ยังลงไปไม่ถึงเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะเกษตรกร ชาวประมง และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส

ชี้ปม พปชร. ขัดแย้งไม่เท่าไร้ผลงาน

เมื่อถามถึงเสถียรภาพรัฐบาลที่ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน จะบริหารงานได้ราบรื่นหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า เสถียรภาพของรัฐบาลยังเดินหน้าได้ เพราะปัจจัยเรื่องเสถียรภาพมี 2 ด้านคือ 1.ปัจจัยเชิงปริมาณต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง 2.ปัจจัยเชิงคุณภาพ ประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน หากประสบความสำเร็จแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้จะช่วยเสริมเสถียรภาพของรัฐบาลให้มั่นคงได้ ทุกอย่างต้องรอพิสูจน์หลังเข้ารับหน้าที่

“ปริญญ์” เชื่อนักลงทุนเริ่มมองบวก

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ลงตัวภายในพลังประชารัฐว่า จะไม่กระทบงานภาพรวมในอนาคต เชื่อว่านายกฯคงจะคุยจบแล้ว ไม่น่ามีปัญหากระทบกับประชาธิปัตย์ ตนอยู่ในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุน ทราบดีว่า มีปัญหาไม่ลงตัวในพรรคพลังประชารัฐ แต่ทุกคนอยากให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็วเร่งทำงาน เห็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับจากประชุมจี 20 เริ่มมองบวก เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าได้ และต้องเร่งทำงานเพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ที่ไม่มีใครทราบแน่นอนว่าจะอยู่ได้กี่เดือนกี่ปี ไฟลนก้นต้องเร่งแสดงฝีมือให้จับต้องได้ เป็นจุดดีที่นักลงทุนชอบ

“นคร” หยัน “เฉลิมชัย” ฝันไกลไป

นายนคร มาฉิม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศมีความฝันจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯคนต่อไปว่า รู้สึกทึ่งมากขอเป็นกำลังใจให้ แต่อย่าลืมว่าภายใต้รัฐธรรมนูญและสภาพการเมืองที่ประชาธิปัตย์เข้าไปร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจเผด็จการ คสช.นั้น ประชาธิปัตย์จะทำอะไรได้ นายเฉลิมชัยรู้หรือไม่ว่า ครม.ประยุทธ์จะอยู่ไปถึง 6 เดือนหรือเปล่า กล้าเดิมพันหรือไม่ว่า ถ้าประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ต่ำกว่า 53 เสียง หัวหน้าพรรคจะลาออกเหมือนกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยประกาศมาแล้ว ลำพังแค่จะพาพรรคให้รอดยังลำบาก ฝันไกลไปหรือเปล่าถึงอนาคตที่จะให้หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ เอาแค่สัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้ว่า จะไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ ที่ให้ไว้ต่อประชาชนยังไม่ทำตามที่สัญญาไว้เลย

ผลโพลคนโคตรเบื่อการเมือง

ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจ เรื่องอารมณ์สาธารณชนต่อการเมือง กรณีศึกษาจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,673 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20-29 มิ.ย.ถึงการตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้านและ ส.ว.พบว่า ร้อยละ 87.2 เห็นด้วย ร้อยละ 12.8 ไม่เห็นด้วย ส่วนความกังวลต่อความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย พบร้อยละ 67.5 กังวลมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 23.2 กังวลปานกลาง และร้อยละ 9.3 กังวลน้อยถึงไม่กังวลเลย เมื่อถามถึงความเบื่อหน่ายต่อปัญหาการเมืองขณะนี้ พบร้อยละ 92.4 รู้สึกเบื่อ เบื่อสุดๆถึงโคตรเบื่อ มีเพียงร้อยละ 7.6 รู้สึกไม่เบื่อ เมื่อถามถึงการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบร้อยละ 59.5 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 40.5 เห็นด้วย และเมื่อถามถึงช่วงเวลาที่ให้โอกาสรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน พบร้อยละ 46.9 ให้โอกาสไม่เกิน 1 ปี ร้อยละ 30.7 ให้โอกาส 1-2 ปี ร้อยละ 8.1 ให้ 2-3 ปี ร้อยละ 11.2 ให้ 3-4 ปี และร้อยละ 3.4 ให้ 4 ปีขึ้นไป

คาใจรุมทึ้งเก้าอี้ รมต.ตั้งรัฐบาล

ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็น 10 อันดับ ปัญหาการ เมืองไทยที่คาใจประชาชน โดยสอบถามความเห็นจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 1,327 คน ระหว่างวันที่ 25-29 มิ.ย. พบว่าร้อยละ 46.87 คาใจการจัดตั้งรัฐบาล เก้าอี้รัฐมนตรี ร้อยละ 38.28 การทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 33.38 ผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ร้อยละ 26.53 การบริหารประเทศของรัฐบาล นโยบายประชารัฐ ร้อยละ 25.62 ที่มาของ 250 ส.ว. บทบาทและอำนาจหน้าที่ ร้อยละ 22.31 กฎหมายรัฐธรรมนูญ การบังคับใช้กฎหมาย ร้อยละ 21.85 ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ร้อยละ 19.74 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ ร้อยละ 17.33 การใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ และร้อยละ 14.77 คุณธรรมจริยธรรมทางการเมือง


“อุตตม” คุมคลังทำลาย 3 เสาหลัก

ที่ห้องประชุม 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง กล่าวในเวทีเสวนาประชาชนหัวข้อ “เวทีตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรี ประยุทธ์ 2 กับเสียงสะท้อนของประชาชน” ว่า ถ้าใน ครม. มีนายอุตตม สาวนายน เป็นว่าที่ รมว.คลัง ตนห่วงใยจะทำให้ ครม.มีปัญหา เพราะกรณีกันคนเป็นพยานคดีปล่อยเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย หมายความว่าคนนั้นต้องเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย กระบวนการดังกล่าวเป็นการฟอกตัวจากผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ ที่สำคัญกว่าคือ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่ารัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ และไม่ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง เปรียบเหมือนกับว่า นายอุตตม เป็นรัฐมนตรีเท่ากับขัดกฎหมายตั้งแต่ประกาศแต่งตั้งเลยหรือไม่ และการตั้งเข้ามาบัญชาการธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงานนี้รู้ว่าใครที่เป็นคนทำหรือมีส่วนร่วมทำความผิด แล้วจะเคารพศรัทธาผู้บังคับบัญชาคนนั้นได้อย่างไร หากนายกฯรู้แล้วยังแต่งตั้ง เหมือนไม่เคารพศักดิ์ศรีของ 3 หน่วยงานหลักของชาติ


ไม่มีความคิดเห็น: